doctorwe.com

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค วันนี้ เราจะกลับมาคุยกันในเรื่องของ  “หุ้น” ซึ่งเราจะคุยกันในเรื่อง  “หุ้นวัฏจักร”  หรือ Cyclical Stock  ตอนที่ 1 โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ   เรื่องการประเมินราคาที่เหมาะสมของหุ้นนั้น ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ยาก และราคาที่เหมาะสมของหุ้นนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไป   ยกตัวอย่างเช่น หุ้นตัวหนึ่งมี.. เงินปันผลต่อหุ้น 1 บาท และมี p/e (ราคาต่อหุ้น/กำไรต่อหุ้น) ที่เหมาะสมคือ 15 เท่า ในปีนี้ราคาที่เหมาะสมคือ 15 บาท แต่หุ้นตัวนี้มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ราคาที่เหมาะสมในปีหน้าก็จะเพิ่มเป็น 1.2*15 คือ 18 บาท   นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้ราคาเหมาะสมอาจจะเปลี่ยนแปลงคือ สภาพแวดล้อมต่างๆ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวบริษัทเอง ที่อาจจะทำให้การเพิ่มขึ้นของกำไร เพิ่มขึ้นหรือน้อยลง กว่าที่คาดไว้   ซึ่งการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของกำไรที่คาดหวัง จะมีส่วนทำให้[ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ พี่ๆ เฟสบุ๊ค วันก่อน….  เราคุยกันเรื่อง “คำทำนายของ…เยอรมัน” ในตอน  อะไรจะเกิดขึ้น?  ถ้ามัน..”เบี้ยวหนี้” ซึ่งได้เราได้พูดถึง   เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมัน  ออกมาทำนายว่า “วันหนึ่ง  เมื่อเพื่อนๆในกลุ่มประเทศยูโรโซน ต้องผ่านเหตุการณ์…  “การรัดเข็มขัด” และ  “การปฏิรูปโครงสร้างทางการเงิน” แล้ววันนั้น..   กลุ่มประเทศยูโรโซน จะกลับมา…     “อย่างยิ่งใหญ่” และ  โลกทั้งโลก..  จะรู้ว่า “ปัญหาของโลก”  จะไปอยู่ที่…“อเมริกา”  และ  “ญี่ปุ่น”  เท่านั้น โดยมีเหตุผลดังนี้ครับ   หนึ่ง  เหตุการณ์ต่างๆ… ทำเพื่อ  “ขอไปที” กรีซ  พรรคประชาธิปไตยใหม่ ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง ทำให้กรีซ กลุ่มประเทศยูโรโซน เชื่อมั่นว่า จะ “ไม่มีประเทศไหน”  ที่ต้องออกจากยูโรโซน แต่แล้วความฝันดังกล่าว   ก็กลายไปเป็น “ฝันร้าย” เพราะ มีแนวโน้มว่ากรีซจะทำตามเงื่อนไข “รัดเข็มขัด” ..  ไม่ได้[ดูฉบับเต็ม...]

เสาร์สวัสดีครับ  เพื่อนๆ พี่ๆ เฟสบุ๊ค เมื่อวานนี้ เราคุยกันถึง  “วิกฤตหนี้ยุโรป” ที่มีอาจารย์..  ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์  มาบรรยายให้เราฟัง วันนี้จะคุยกันต่อจากเมื่อวานนี้เลย นะคร้าบ..   ข้อ 2. ประเทศที่มีกำลังปัญหา จะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น แต่ถ้าจะได้รับความช่วยเหลือ จะต้องกัดฟันปรับหนี้สาธารณะให้ต่ำลง การขาดดุลจะให้ไม่เกิน 3  % ภายใน 2-3 ปี   ซึ่งหมายความว่า จะได้รับความช่วยเหลือจะรอด แต่บาดเจ็บมาก คนจะว่างงานอีกเยอะ เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้อาจจะบอกได้ว่า ถ้าหากว่าข้อตกลงนี้อาจจะผ่านสภา ซึ่งจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ถึง 1 ปี   ถ้าผ่านได้โดยกลไกพวกนี้ ยุโรปก็พอจะหายใจได้ แต่กว่าจะถึงจุดนั้น เรายังมีความเสี่ยงอยู่ว่า ข้อตกลงนั้นจะผ่านไหม ซึ่งต้องติดตามว่าข้อตกลงนี้จะผ่านไหม   ขณะที่ยังไม่ผ่าน มาตรการที่ยังไม่ผ่าน นักลงทุนเริ่มที่จะยังไม่ไว้วางใจสเปนกับอิตาลีไหม ซึ่งจะดูได้จากดอกเบี้ย โดยหากไม่ไว้วางใจดอกเบี้ยอาจจะขึ้นมาถึง 6-7 %ซึ่งก็เจ๊งเหมือนกัน[ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ เฟสบุ๊ค เมื่อวานนี้  เราคุยกัน “ปัญหาหนี้สาธารณะยูโรโซน” วันนี้จึงอยากพาเพื่อนๆ ไปฟัง ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ซึ่งท่านได้นำเสนอความคิดเห็นต่อเรื่องนี้เอาไว้อย่างน่าสนใจ  ดังนี้ครับ   “ปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรป มันเกิดขึ้นจริงๆมาจากเรื่องกรีก แต่จริงๆแล้วต้องมองย้อนกลับไป 3 – 4 ปี ก็มาจากเรื่องซับไพร์ม ซึ่งทำให้เอกชนของยุโรปและอเมริกามีปัญหา เพราะฉะนั้นรัฐก็เข้าไปช่วย ด้วยการแบกหนี้ของสถาบันการเงิน   คือช่วงก่อนหน้านี้เศรษฐกิจมันเฟื่องฟูมากและก็ถดถอยลงไป ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐน้อยลง ทางรัฐเองก็จำเป็นจะต้องเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มันก็เกิดปัญหาสองเรื่อง   หนึ่ง. ปัญหาหนี้สาธารณะ และการขาดดุลงบประมาณสูงมาก โดยเฉลี่ยใน 27 ประเทศของยุโรปขาดดุล 17 ประเทศอยู่ในยูโรคือ ใช้เงินยูโร หนี้สาธารณะเกิน100  % อิตาลี 120 %  กรีก 150 % เพราะฉะนั้นเมื่อเป็นแบบนี้ มันก็เกิดระเบิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2510   กรีกเริ่มล้มละลาย[ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ พี่ๆ เฟสบุ๊ค ถึงเวลานี้..  เพื่อนๆคงรู้กันแล้วว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของกลุ่มยูโรโซน กลับมาปะทุอีกครั้งหนึ่งแล้ว พร้อมๆกับ  “ความฝันแบบลมๆแล้ง”   ที่คิดว่า… “เดี๋ยวปัญหา…มันก็ทุเลาเอง”   แต่จนถึงตอนนี้แล้ว…. ทุกอย่าง..ดูเหมือนว่าจะกลายเป็น “ฝันร้าย” ไปเสียมากกว่า แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมัน..   ออกมา “ทำนาย”  อนาคต วันนี้จึงขอเสนอตอน  “คำทำนาย..ของเยอรมัน”   เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมัน  ออกมาทำนายว่า “วันหนึ่ง  เมื่อเพื่อนๆในกลุ่มประเทศยูโรโซน ต้องผ่านเหตุการณ์…  “การรัดเข็มขัด” และเหตุการณ์   “การปฏิรูปโครงสร้างทางการเงิน” แล้ว…   “วันนั้น..   กลุ่มประเทศยูโรโซน จะกลับมา…     “อย่างยิ่งใหญ่” จะกลับมา…     “อย่างไม่มีหนี้สิน” จะกลับมา…     “อย่างมีศักยภาพในการแข่งขัน   และ  โลกทั้งโลก..  จะรู้ว่า “ปัญหาของโลก”  จะไปอยู่ที่… “อเมริกา”  และ  “ญี่ปุ่น”  เท่านั้น ซึ่งเป็นสองประเทศที่เต็มไปด้วย “หนี้สิน” และ[ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ  พี่ๆ เฟสบุ๊ค เมื่อวานนี้ เราคุยกันเรื่อง  “พลังจีน…ขับเคลื่อนโลก” โดย คุณธนินท์ เจียรวนนท์  ประธานเครือซีพี วันนี้จึงขอคุยต่อตอนที่ 2  นะครับ ในตอน  “อสังหาฯ-บริการ-เกษตร”  3 พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ..จีน   หนึ่ง   อสังหาริมทรัพย์  พลังขับเคลื่อนจีน ผมมองว่าจีนในโลกนี้ไม่มีประเทศไหนที่เจริญเทียบเท่าจีนแล้ว พลังมหาศาลที่ฉุดเศรษฐกิจ คือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ เป็นเบอร์หนึ่งเลย เพราะอสังหาริมทรัพย์จะฉุดธุรกิจอีกตั้งหลายสิบธุรกิจ หรือหลายร้อยธุรกิจเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ   ตั้งแต่คนอ่านหนังสือไม่เป็นก็มีงานทำ และยังดึงอุตสาหกรรมเหล็ก อิเล็กทรอกนิกส์ ปิโตรเคมี เครื่องใช้ไฟฟ้า จนไปถึงตกแต่งออกแบบภายใน ช่างไม้ ช่างฝีมือ….  รุ่งเรืองไปด้วย ส่วนอเมริกาอาจจะมีโอกาส ยังมีคนย้ายเข้ามาอยู่ในอเมริกา ก็ยังพอน่าสนใจ แต่ยุโรปเป็นพื้นที่คนแก่ บ้านยังมีเหลือ ศูนย์การค้ายังมีเหลือ ดังนั้นจึงไม่น่าไปลงทุนแล้ว   แต่จีนยังขาดแคลนอย่างมาก จริงๆแล้วจีนเพิ่งเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วเพียงสิบกว่าปี และสิบกว่าปีก่อนถนนยังว่างเปล่า สมัยก่อนประชาชนไม่มีสิทธิ์ซื้อรถยนต์ ที่ซื้อได้คือบริษัทกับข้าราชการ เอกชนยังไม่มีสิทธิ์ซื้อกระทั่งเพิ่งปล่อยมา 12-13 ปี[ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ ไปฟัง.. กูรู..นักสร้างธุรกิจ “ตัวจริง” ท่านเป็นมหาเศรษฐี..ที่เชี่ยวชาญ “เมืองจีน” เป็นพิเศษ เพื่อนๆ  ลองทายดูซิครับว่า..   ท่านเป็นใคร ???   ใช่แล้วครับ  ท่านคือ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ที่เป็นประธานกรรมการเครือบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือที่เราเรียนกันว่า “เครือซีพี” เนื่องในโอกาสหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 36 จึงได้เรียนเชิญท่านไปปาฐกถาพิเศษ… ในเรื่อง “พลังจีน…ขับเคลื่อนโลก” โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ   หนึ่ง “เจ้าสัว” แนะทั้งเอกชน-รัฐบาล ต้องเดินคู่กัน “ถ้าจะคอร์รัปชั่นต้องมีเหตุมีผล” นายธนินท์ กล่าวว่า เศรษฐกิจจะมีความต่อเนื่องได้ การเมืองต้องนิ่ง อย่างประเทศเยอรมันพรรคเดียวผูกขาดกว่า 40 ปี บริหารประเทศมาตลอด ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็ 40 กว่าปี พอพักหลังเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีบ่อยเหลือเกิน เพราะไม่มีการเมืองที่มั่นคง ต้องมีผู้นำที่มีความสามารถและต้องต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นก็ยาก   “ทั้งบริษัทเอกชนและรัฐบาลต้องเดินหน้า ผมว่าต้องเดินหน้าไปด้วยกันและก็ทำถูกทั้งคู่ ธุรกิจอะไรบ้างต้องเป็นรัฐบาลมาลงทุน แต่ให้รัฐบาลลงทุนร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม[ดูฉบับเต็ม...]

  คอลัมน์:  หุ้นส่วน ประเทศไทย “เมื่อไร ทองคำจะบาทละ..สามหมื่น  ซักที ?” ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต www.facebook.com/doctorweraphong ผมเคยเขียนบทความที่มีชื่อว่า “ทองคำ…เก็บไว้ใช้ตอนแก่ดีไหม ?”  (โพสต์ทูเดย์ วันที่ 15 ธันวาคม 2554  หรืออ่านได้ที่ http://www.doctorwe.com/posttoday/20111215/220 )  ที่เล่าถึงราคาทองคำช่วงปี 2514-2523 เพิ่มขึ้น 25 เท่าภายใน 10 ปี ( 25 เท่าจริงๆครับ)  ช่วงปี 2524-2543 ลดลง 60 เปอร์เซ็นต์ใน 20 ปี  และช่วงสุดท้าย 2544-2554 เพิ่มขึ้น 6 เท่า หลังจากนั้นมาก็มีคำถามเข้ามามากมายว่า “เมื่อไร ทองคำจะบาทละ..สามหมื่น ซักที?”  ตอนนี้ ผมคิดว่าถึงเวลาที่จะตอบคำถามแล้ว ดังนี้ครับ หนึ่ง  ปีที่แล้ว [ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค เมื่อวานนี้ เราพูดถึง บริษัทขายที่หนังสือที่ “ใหญ่ที่สุดในโลก” ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ได้ขายสินค้าเกือบทุกประเภท และครอบคลุมไปทั่วโลก ทุกวันนี้ บริษัทแห่งนี้คิดจะครองส่วนแบ่งการตลาดของโลก “ให้มากที่สุด” วันนี้เสนอตอน  “เมื่อ อเมซอน คิดครองโลก” ตอนจบ   Amazon.com  หนึ่งในกลุ่มบริษัทที่เรียกว่า  “App Economy” ซึ่งรวมถึง Google, Facebook และ Apple เป็นต้น เป็นที่เชื่อว่า จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่บริษัทนั้น และแก่สหรัฐอเมริกา โดย อเมซอน  เองอยู่ในอันดับที่ 56 ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาหากวัดจากมูลค่าการตลาด และอยู่อันดับที่ 1 หากวัดจากรายได้ ในหมวดธุรกิจค้าปลีกออนไลน์   นักวิเคราะห์ก็ยังมองว่า Amazon ยังมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นได้อีกมาก “การเจริญเติบโต” นั้น  มันมาจากไหน ? และจะมี “อะไร”  มาหยุดช้างสาร Amazon ตัวนี้ได้บ้าง ?[ดูฉบับเต็ม...]

สวัสดีครับ  เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค เวลานี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับบริษัทขายที่หนังสือที่ “ใหญ่ที่สุดในโลก” บริษัทแห่งนี้เริ่มจาก  “โรงจอดรถ” เล็กๆ และได้ขยายไปเป็นร้านหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้ได้ขายสินค้าเกือบทุกประเภท และครอบคลุมไปทั่วโลก เพื่อนๆ  รู้ไหมครับว่า  บริษัทนี้..ชื่ออะไร?   ใช่แล้วครับ บริษัทที่เราพูดถึงก็คือ  “Amazon.com”  นั่นเอง เหมือนกับหลายๆบริษัท ที่อยู่ในกลุ่ม  “App Economy” ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook หรือ Apple (อ่านรายละเอียดได้ใน “เมื่อ อเมริกา กลับมาทวง..ความยิ่งใหญ่” ในโพสต์ทูเดย์ หรือ http://www.doctorwe.com/posttoday/20120720/2670)   บริษัทดังกล่าวที่อยู่ในกลุ่ม App Economy นี้ เป็นที่เชื่อว่า จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่บริษัทนั้น และแก่สหรัฐอเมริกา Amazon  เองอยู่ในอันดับที่ 56 ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาหากวัดจากมูลค่าการตลาด และอยู่ในอันดับที่ 15 หากวัดจากรายได้ในหมวดธุรกิจค้าปลีก และอยู่อันดับที่ 1 หากวัดจากรายได้ ในหมวดธุรกิจค้าปลีกออนไลน์[ดูฉบับเต็ม...]