doctorwe.com

1   อาทิตย์…สวัสดีครับ   เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค เมื่อวานนี้   เราได้คุยกันไปถึงเรื่อง  “ 10 ภาพอนาคตง่ายๆ…ของอาเซียน” ซึ่งเราได้คุยกันไปแล้ว 5 เรื่อง… สนใจอ่านคลิกไปได้ที่  www.doctorwe.com วันนี้ขอคุยต่ออีก 5 ข้อที่เหลือนะครับ   2   หก  โอกาสที่ไทยจะเป็น “ศูนย์กลาง” ไทยมีโอกาสที่จะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และการบินอย่างมาก เพราะว่าตำแหน่งที่ตั้งของไทยที่อยู่กลางอาเซียน ซึ่งจะผลให้ไทยโดดเด่นในเรื่องการจัดการประชุมต่างๆ   3    การแสดงนิทรรศการ ศูนย์กระจายสินค้า และการบริการด้านการแพทย์และสุขภาพ นอกจากนั้นหลายอุตสาหกรรมยังมีโอกาสที่จะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด เช่น รถยนต์ การท่องเที่ยว การคมนาคม   4   ในขณะเดียวกัน…. อุตสาหกรรมบางประเภทของไทยก็จะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเป็นหลัก เช่น ภาคการเกษตร ก่อสร้าง อุตสาหกรรรมสิ่งทอ เป็นต้น   5   เจ็ด  “ภาษาอังกฤษ” จะเป็นภาษาที่เชื่อมอาเซียน ภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาที่สำคัญอย่างมาก สิ่งแวดล้อมต่างๆในประเทศไทยจะมีการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทางต่างๆ[ดูฉบับเต็ม...]

1  สวัสดีครับ   เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค พบกัน  ทุกวันเสาร์-อาทิตย์  หลัง 2 ทุ่ม ช่วงนี้  เพื่อนๆ  คงได้รับรู้ข่าวคราว…เกี่ยวกับ “อาเซียน” เป็นจำนวนมาก วันนี้  จึงอยากมาคุยให้เพื่อนๆฟัง เกี่ยวกบ “อาเซียน” ในตอน  “10  ภาพอนาคตของ…อาเซียน”  ตอนที่ 1   2   ผมเองเป็นคนชอบมองโลกไปในอนาคต ซึ่งผมได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากในการมองอนาคตมาจากอาจารย์ของผมท่านหนึ่งคือ รศ.มานพ พงศทัต ศาตราภิชาน จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งต้องขอขอบคุณท่านอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วย   3   โดยเฉพาะแนวความคิดเรื่อง Globalization (โลกาภิวัตน์) และ Urbanization   (สังคมเมือง) ผมจึงได้พยายามวาดภาพของอาเซียนในอนาคตแบบง่ายๆ ไว้ด้วยกัน 10 ภาพ  ดังนี้ครับ     4   หนึ่ง  ระบบ “หนึ่ง..วีซ่า[ดูฉบับเต็ม...]

    คอลัมน์:  หุ้นส่วน ประเทศไทย ฤา..เงินล้นโลก  ต้นเหตุ..ตลาดหุ้นบูม ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต www.facebook.com/doctorweraphong ช่วงนี้ดัชนีตลาดหุ้นเมืองไทยได้ทำสถิตใหม่..ครั้งแล้วครั้งเล่า เช่นเดียวกัน..ตลาดหุ้นทั่วโลกก็กำลังจะทำลายสถิติใหม่ไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจโดยรวมของโลกใบนี้กำลังโตวันโตคืน หรือว่า? เหตุการณ์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เป็นเพียง “ภาพมายา” ที่หลอกให้เราดีใจไปวัน..วัน ผมเองมีข้อมูลบางอย่างที่อยากจะมานำเสนอให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจพอสังเขป ดังนี้ครับ หนึ่ง  เศรษฐกิจของบรรดาประเทศมหาอำนาจเก่า ..ยังไม่มีวี่แวว..ว่าจะดี แม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณใดๆที่ชี้ชัดว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากำลังจะฟื้นตัวแล้วจริงๆ แต่หุ้นจำนวนมากในตลาดหุ้นของอเมริกาก็ทำราคาใหม่..ทำลายสถิติใหม่..อย่างต่อเนื่อง ส่วนฟากฝั่งยุโรป หลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดใน 2-3 ปีที่ผ่านมา กรีซและสเปนได้ประสบปัญหา “หนี้สาธารณะ” ครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งทำให้พี่ใหญ่..เยอรมนีพลอยประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำไปด้วย แต่ดัชนี DAX50 ของตลาดหุ้นเยอรมนีกลับทะยานขึ้นไปอย่างมาก ทั้งนี้ “ปัญหาหนี้สินสาธารณะ..ก้อนมหึมา” ก็ยังไม่มีหนทางใดๆที่จะสามารถแก้ไขได้ภายในเร็ววันเลย นอกจากนั้นสหราชอาณาจักรหรืออังกฤษก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง โดยคาดว่า  ขนาดเศรษฐกิจได้หดตัวลง โดยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงไปแล้ว 3.3% นับจากตอนเริ่มเกิดวิกฤต แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้น เมื่อพบว่า ดัชนีตัวหนึ่งของตลาดหุ้นลอนดอนที่มีชื่อว่า ดัชนี FTSE250 ได้พุ่งขึ้นสวนกระแส..เศรษฐกิจที่หดตัว โดยถีบตัวเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว สอง [ดูฉบับเต็ม...]

ฤา…เงินล้นโลก ต้นเหตุ…ตลาดหุ้นบูม  ตอนจบ 1  สวัสดีครับ   เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค เมื่อวานนี้  เราคุยกันไปแล้วถึง “ฤา…เงินล้นโลก  ต้นเหตุ…ตลาดหุ้นบูม”  ตอนที่ 1 โดยพบว่า  ดัชนี้ตลาดหุ้นเกือบทั่วโลก..พุ่งกระฉูด..ทำสถิติใหม่   2  ขณะที่  เศรษฐกิจของบรรดาประเทศ..มหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น  สหรัฐอเมริกา  ยุโรป  หรือญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา  ยัง…ไม่มีความชัดเจนเพียงพอ…ที่จะฟื้นตัว..ได้เร็ว” ในส่วนยุโรป และญี่ปุ่น  ยังมองไม่เห็น.. แสงสว่าง…ที่ปลายอุโมงค์ เลย   3  แต่สิ่งที่ปรากฏในเวลานี้คือ… ดัชนีตลาดหุ้นเกือบทั่วโลก… “ทำสถิติใหม่” หรือว่า  นี่คือ “โรคติดต่อ” ของอาการเศรษฐกิจที่มีปัญหา เพียงแต่ “ปัญหาต่างๆ”  ไม่แสดงอาการออกมา… เพราะ…  จำนวนเงิน..มหาศาล ที่ “ปิดทับ” มันอยู่    4   สิ่งที่ “น่ากลัว” มากไปกว่านั้นก็คือ โลกใบนี้กำลังเผชิญปัญหา “เงินล้นโลก”[ดูฉบับเต็ม...]

1  สวัสดีครับ  เพื่อนๆ พี่ๆ เฟสบุ๊ค พบกันอีกครั้ง ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ หลัง 2 ทุ่ม เช่นเดิม..  ช่วงนี้ ดัชนีตลาดหุ้น..ทำสถิตใหม่..แทบจะทุกวัน วันนี้ จึงขอเสนอตอน..  “ฤา..เงินล้นโลก  ต้นเหตุ..ตลาดหุ้นบูม”  ตอนที่ 1   2  หากมองไปที่ตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก… นั่นคือ ตลาดหุ้นใน.. สหรัฐอเมริกา ซึ่งมี ดัชนีด้วยกันสามตัว ไม่ว่าจะเป็น ดัชนีดาวโจนส์  ดัชนีแนสแด็ค  และดัชนีเอสแอนด์พี 500   3  พบว่า  ดัชนีทั้งสามตัว… ได้ทำลายสถิติใหม่  หรือเกือบจะทำลายสถิติเดิม…แล้ว ซึ่งสถิติเดิมที่สูงทีสุดได้ทำขึ้นในปี 2550  ก่อนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในปี 2551   4   แม้ว่า ในปัจจุบัน… ยังมีสัญญาณใดๆที่ชี้ชัดว่า เศรษฐกิจอเมริกา..ฟื้นตัวแล้วจริงๆ แต่ หุ้นจำนวนมากในตลาด…ก็ทำราคาใหม่ “ทำลายสถิติใหม่” อย่างต่อเนื่อง   5 [ดูฉบับเต็ม...]

      คอลัมน์:  ภูมิคุ้มกัน คอร์รัปชัน ยุทธการฮุบ… “บริษัทต่างชาติ” ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต www.facebook.com/doctorweraphong ช่วงนี้มีข่าวคราว..ที่บริษัทไทยเข้าไปซื้อกิจการบริษัทต่างชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ผมติดตามอ่านเรื่องราวดังกล่าวมากเพราะมีมุมมองที่น่าสนใจ ผมจึงอยากมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่ชวนติดตาม ดังนี้ครับ หนึ่ง  ยุทธการฮุบบริษัท “เอฟแอนด์เอ็น” เอฟแอนด์เอ็น เป็นบริษัทชั้นนำของสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านเครื่องดื่มของภูมิภาค โดยมีสินค้าที่เป็นที่นิยมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซอฟต์ดริงก์ ผลิตภัณฑ์นม โยเกิร์ต นมข้นหวาน รวมถึงยังมีพอร์ตลงทุนในเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และเป็นผู้ประกอบการห้างค้าปลีก 9 แห่งในสิงคโปร์ ซึ่งรวมถึงเดอะเซ็นเตอร์พอยท์ แหล่งช็อปปิ้งชั้นนำของสิงคโปร์ ดังนั้นจึงทำให้บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของไทย บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ “ไทยเบฟ” ที่มีเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นเจ้าของ..สนใจเป็นอย่างยิ่ง โอกาสเปิดขึ้นในปี 2550 เมื่อรัฐบาลสิงคโปร์ออกกฎให้ธนาคารพาณิชย์ต้องขายกิจการที่ไม่เกี่ยวโยงกับธนาคารออกไป เป็นเหตุผลให้ธนาคารโอซีบีซีที่ถือหุ้นเอฟแอนด์เอ็นอยู่ 22% ต้องขายหุ้นดังกล่าวออกไป ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวดำเนินไปอย่าง…ชิงไหวชิงพริบ โดยวันที่  17 ก.ค. 2555  [ดูฉบับเต็ม...]

1   สวัสดีครับ  เพื่อนๆ  พี่ๆ  เฟสบุ๊ค พบกันอีกครั้ง  ทุกวันเสาร์-อาทิตย์  หลัง 2 ทุ่ม เมื่อวานนี้  เราคุยกันถึงเรื่อง  “ยุทธการฮุบหุ้น..บริษัทต่างชาติ  ตอนที่ 1” เราพูดถึง  กรณี..  ไทยเบฟ take over …เอฟแอนด์เอ็น ของสิงคโปร์ วันนี้ขอคุยต่อ…  ตอนจบนะครับ   2     สอง   กรณี  ซีพี  เทคโอเวอร์ ผิงอัน ก่อนที่จะคุยกันต่อถึงการเทคโอเวอร์  ผมอยากเล่าประวัติของทั้ง 3 บริษัทให้เข้าใจซักหน่อยครับ ผู้ซื้อคือ  ซีพี    ผู้ขายคือ  ธนาคาร เอชเอสบีซี   และสินค้าคือ   หุ้นของบริษัทประกันภัยผิงอัน จำนวน 15.6% ซีพี กรุ๊ป เป็นบริษัทข้ามชาติแห่งแรกที่เข้าไปลงทุนในธุรกิจการเกษตรของจีนเมื่อปี 2522 โดยได้รับใบอนุญาตเลขที่ 0001  เป็นการการันตีว่า…เป็นบริษัทแรกในโลกที่ไปลงทุนในจีน หลังจากที่ จีนเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบ “คอมมิวนิสต์”  [ดูฉบับเต็ม...]