doctorwe.com

Dr.Weraphong Chutipat   A Columnist

Fanpage 828_315
  • ล่าสุด
  • บทความ
  • แจกฟรี
  • การอบรม
  • ชม+ฟัง
  • ผู้เขียน


  • A A A
    • พ.ศ. :
    • 2563
    • 2562
    • 2561
    • 2560
    • 2559
    • 2558
    • 2557
    • 2556
    • 2555
    • 2554
      เดือน :
    • ม.ค.
    • ก.พ.
    • มี.ค.
    • เม.ย.
    • พ.ค.
    • มิ.ย.
    • ก.ค.
    • ส.ค.
    • ก.ย.
    • ต.ค.
    • พ.ย.
    • ธ.ค.

    14 พฤษภาคม 2554

    5,168 views

    เวเนซุเอลา… ประชานิยมขั้นเทพ.. จะไปรอดไหม ??

    พิมพ์หน้านี้

    Post Today

    คอลัมน์:  ยุทธศาสตร์…ประเทศไทย

    ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    ศูนย์บริการวิชาการธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

    www.thaigoodgovernance.org

     

     

    เวเนซุเอลา… ประชานิยมขั้นเทพ.. จะไปรอดไหม ??

    เวเนซุเอลา ประเทศหนึ่งในลาตินอเมริกาได้สร้างปรากฏการณ์ที่ทำให้ทั้งโลกต้อง “ทึ่ง” ในนโยบายการบริหารประเทศเทียบกับผลลัพธ์ที่ออกมา ในการสำรวจและจัดอันดับประเทศที่มีความเป็นอยู่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2553 ของสำนักกัลลัปโพลซึ่งเป็นสำนักจัดอันดับโพลชื่อดังของโลกพบว่า เวเนซุเอลามาในอันดับที่ 6 เป็นรองจาก เดนมาร์ก สวีเดน แคนาดา ออสเตรเลีย และฟินแลนด์เท่านั้น นอกจากนั้นยังเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาซึ่งมาในอันดับที่ 12 โดยกัลลัปได้ใช้วิธีการสำรวจโดยการสัมภาษณ์ตัวต่อตัวและสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จำนวนประมาณ 1,000 คนในแต่ละประเทศ จากนั้นจึงให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ให้คะแนนฐานะความเป็นอยู่ของเขาทั้งในปัจจุบันและอนาคต แล้วนำผลคะแนนมาจัดเป็น 3 กลุ่มคือ “รุ่งเรือง” “ดิ้นรน” และ “ยากลำบาก” ซึ่งพบว่าประชาชนในเวเนซุเอลาตอบว่า ประเทศของตนอยู่ในภาวะรุ่งเรืองสูงถึงร้อยละ 64 ตามตาราง



     

    การจัดอันดับประเทศที่มีความเป็นอยู่ดีที่สุดในโลก

    ลำดับที่

    ประเทศ

    “รุ่งเรือง”

    “ดิ้นรน”

    “ยากลำบาก”

    1

    เดนมาร์ก

    72%

    27%

    1%

    6

    เวเนซุเอลา

    64%

    32%

    4%

    12

    สหรัฐอเมริกา

    59%

    38%

    3%

    34

    ไทย

    37%

    60%

    3%

    68

    อินโดนีเซีย

    19%

    73%

    8%

    72

    มาเลเซีย

    17%

    79%

    4%

    120

    กัมพูชา

    3%

    74%

    23%

    ที่มา: สำนักสำรวจและจัดอันดับ กัลลัปโพล, 19 เมษายน 2554

    http://www.gallup.com/poll/147167/High-Wellbeing-Eludes-Masses-Countries-Worldwide.aspx#2

    ฮิวโก ชาเวซ ประธานาธิบดีของเวเนซุเอลาคนปัจจุบัน เขาเป็นตัวจักรสำคัญในการผลักดันนโยบายสังคมและเศรษฐกิจเชิงประชานิยมที่เข้มแข็งที่สุดคนหนึ่งของโลก ชาเวซเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2547 ( 57 ปี)  เขาเกิดในครอบครัวที่ยากจนในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งของเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตามเนื่องจากพ่อและแม่มีอาชีพเป็นครู เขาจึงมีโอกาสได้เรียนสูงจนกระทั่งสามารถได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนนายทหารเมื่อปี 2514 ระหว่างเรียนชาเวซได้มีโอกาสเห็นความยากจนและความอยุติธรรมที่เป็นเสมือนโรคระบาดที่แพร่กระจายอย่างรุนแรงไปในกลุ่มผู้ใช้แรงงานของเวเนซุเอลา ทำให้เขาเกิดความคิดที่อยากจะแก้ปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน ชาเวซชอบที่จะศึกษาเกี่ยวกับแนวทางทางการเมืองโดยเฉพาะหนังสือของ คาร์ล มาร์กซ์ และ เช กูวารา ด้วยความคิดดังกล่าวทำให้ในปี 2535 ชาเวซได้ร่วมกับเพื่อนนายทหารทำการรัฐประหารแต่ล้มเหลว ในปี 2541 ชาเวซได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของเวเนซุเอลา ด้วยบุคลิกขวานผ่าซากและจริงใจประกอบกับนโยบายที่จะปฏิรูปสังคมและเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เขาชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายด้วยคะแนนเสียงสูงถึงร้อยละ 56.20 ของคะแนนเสียงทั้งหมด

    หลังจากได้เป็นประธานาธิบดี ชาเวซได้สนับสนุนกิจกรรมด้านประชานิยมอย่างเต็มรูปแบบ เช่น ก่อตั้งสหกรณ์แรงงานขึ้นมากกว่า 100,000 แห่ง เพื่อช่วยเหลือเรื่องการกู้หนี้ยืมสินของคนงานโดยได้รับเงินตั้งต้นจากรัฐบาล สนับสนุนการสร้างบ้าน 2 ล้านหลังภายใน 7 ปี ส่งทหารกว่า 70,000 นายออกไปซ่อมแซมถนนและสาธารณูปโภค การขึ้นค่าจ้างแรงงานอย่างต่อเนื่อง และการสัญญาจะสร้างงานมากกว่า 3 ล้านตำแหน่งในระยะเวลา 8 ปี เป็นต้น ทุกนโยบาย… ทุกงบประมาณ… ทุกสิ่งทุกอย่าง มุ่งสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ประชาชนเวเนซุเอลาจึงรักและศรัทธา ฮิวโก ชาเวซ

    อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของเวเนซุเอลาเป็นเศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาน้ำมันเป็นหลัก โดยเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 55 ของงบประมาณประเทศ และเป็นร้อยละ 30 ของมวลรวมผลิตภัณฑ์ประเทศ (GDP) ดังนั้นการขึ้นลงของราคาน้ำมันจึงส่งผลอย่างมหาศาลต่อความเป็นอยู่ของคนเกือบทั้งประเทศ ในช่วงปี 2549-2551 ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาขึ้นทำให้ GDP พุ่งขึ้นไปร้อยละ 10 ร้อยละ 8 และร้อยละ 4.8 ตามลำดับ แต่ในช่วงปี 2552-2553 ราคาน้ำมันตกลงอย่างมาก ทำให้ GDP ในปี 2552 ลดลงอย่างมากที่ร้อยละ -3.3 และปี 2553 อยู่ที่ร้อยละ -2.8 และอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศพุ่งเป็นร้อยละ 27.1 และร้อยละ 29.8 ตามลำดับ ประชาชนจึงไม่สามารถใช้เงินที่มีอยู่ซื้อสินค้าที่มีราคาที่ถีบตัวสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมราคาสินค้า..ชาเวซจึงแก้ไขปัญหาโดยการเข้าไปยึดโรงงานและกิจการของภาคเอกชนมาเป็นของรัฐเพิ่มขึ้นและควบคุมราคาขายของสินค้านั้นๆ ซึ่งเป็นการทำร้ายบรรยากาศการลงทุนภายในประเทศอย่างรุนแรงและนำไปสู่การลดประสิทธิภาพการผลิต บริษัทต่างชาติจึงยกเลิกกิจการและถอนการลงทุนออกจากเวเนซุเอลา ดังนั้นผลผลิตที่ออกมาจึงลดลงเรื่อยๆ และทำให้การส่งออกสินค้าลดลงด้วย ในที่สุดการส่งออกผลผลิตอื่นที่ไม่ใช่น้ำมันจึงแทบจะหดหายไปเลย น้ำมันจึงกลายเป็นสินค้าหลักในการส่งออกของประเทศไปและมีอัตราส่วนสูงถึงร้อยละ 92 ของสินค้าส่งออกทั้งหมดของประเทศ

    แต่ปัญหาที่โถมกระหน่ำชาเวซก็ยังไม่สิ้นสุด ต้นปี 2553 ปัญหาเงินเฟ้อก็ยังรุนแรงและคุกคามความเป็นอยู่ของชาวเวเนซุเอลาอยู่ดี เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว…ชาเวซจึงประกาศอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่ 2.6 โบลิวาร์ต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐสำหรับการนำเข้าสินค้าประเภทปัจจัยสี่และสินค้าจำเป็น และอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ที่ 4.3 โบลิวาร์ต่อดอลลาร์สำหรับการนำเข้าสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ปัญหาที่ตามมาคือ เกิดตลาดมืดที่ยอมให้เงินมากกว่าเป็นเท่าตัวสำหรับการแลกเงินดอลลาร์ สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆจึงพยายามขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือขึ้นราคาขายสูงลิ่วในสกุลเงินโบลิวาร์ ชาเวซจึงแก้เกมส์โดยปิดตลาดมืดที่ให้แลกเปลี่ยนเงินตราทั้งหมด และประกาศบทลงโทษอย่างรุนแรงโดยจำคุกถึงสูงถึง 7 ปีสำหรับผู้ค้าเงินตราดังกล่าว

    แก้ปัญหาหนึ่ง…ก็จะเกิดอีกปัญหาหนึ่ง… หลังจากการแก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ทำให้ต่างชาติไม่เชื่อถือในค่าเงินโบลิวาร์และไม่ยอมขายสินค้าให้แก่เวเนซุเอลา และเวเนซุเอลาเองก็ขาดแคลนเงินตราสกุลหลักๆเพื่อนำไปซื้อสินค้าที่จำเป็น ชาเวซจึงแก้ปัญหาโดยการยืมเงินจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวน 12 พันล้านดอลลาร์และจ่ายคืนเป็นน้ำมันให้ ชาเวซยังต้องซื้อสินค้าจำเป็นจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็นนมผง ผ้าอนามัย และอาหาร โดยใช้น้ำมันเป็นตัวแลกเปลี่ยนเช่นกัน

    ดูเหมือนว่า…ทุกอย่างของเวเนซุเอลาและชาเวซจะขึ้นอยู่กับน้ำมัน นักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า หากราคาน้ำมันยังมีราคาสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบาร์เรลแล้ว มูลค่าการส่งออกของเวเนซุเอลาจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ที่มีจำนวนกว่า 11 พันล้านดอลลาร์ การนำเข้าสินค้าจำเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ และยังสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไปอีก 2 ปี แต่หากราคาน้ำมันต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว ธนาคารชาติแห่งเวเนซุเอลาก็ยังมีเงินตราต่างประเทศและทองสำรองมูลค่ากว่า 22.5 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับสินทรัพย์ที่ไม่ระบุที่มาอีกกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์

    อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ยังไม่ได้ประเมินต่อไปว่า หากราคาน้ำมันตกลงเป็นระยะเวลานานกว่านั้นแล้ว.. อะไรจะเกิดขึ้น เพราะในปัจจุบันทั้งประเทศเวเนซุเอลาไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลย.. นอกจากน้ำมัน แต่ประชาชนชาวเวเนซุเอลาก็ยังมั่นใจและมั่นคงอย่างเหนียวแน่นใน ประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ ของเขา ตามที่สะท้อนให้เห็นจากผลการสำรวจของกัลลัปโพลข้างต้น ทำให้นึกถึงคำพูดของ Dr.Wayne Dyer ผู้แต่งหนังสือเรื่อง “The Power of Intention” ที่ว่า “The Past is over and gone. The future is not guaranteed” แปลตามความได้ว่า “อดีตกำลังจะหมดและจากไป อนาคตไม่มีใครรับประกันได้” ตอนนี้ชาวเวเนซุเอลาคงจะกำลังสบายใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่ามันจะค่อยๆกลายเป็นอดีตไปก็ตาม ซึ่งในวันพรุ่งนี้ก็อาจไม่เป็นเหมือนวันนี้ และไม่มีใครกล้ารับประกันได้ว่าจะเหมือนวันนี้.. แม้แต่คนที่ชื่อ ฮิวโก ชาเวซ

    พิมพ์หน้านี้

    ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    5,168 views  1,394 Comments

    Posted Under โพสต์ทูเดย์

    No Comments Yet

    You can be the first to comment!

    Sorry, comments for this entry are closed at this time.

      • 10 อันดับ
      • Facebook
      • Twitter

      บทความที่โพสต์ขึ้นเฟสบุ๊ค เมื่อคืนนี้เอาขึ้นเว็บแล้วนะครับสนใจคลิกที่... http://t.co/ylMslUNy

      follow me on
      twitter

    •  
    • Subscribe Email


       

    • Polls Sorry, there are no polls available at the moment.
    • Tag Cloud
      CSR GDP IMF กรีซ การลงทุน ครัวโลก ความรู้นักลงทุน ความเป็นอิสระทางการเิงิน คอร์รัปชัน ค่าแรง ตาน ฉ่วย ทองคำ ธนินทร์ เจียรวนนท์ น้ำท่วม 2554 บัตรเครดิต ประชาธิปไตย พม่า พื้นที่ทับซ้อน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยุโรป วิกฤตซับไพรม์ วิธีบริหารกองทุน วีรพงษ์ ชุติภัทร์ สหรัฐอเมริกา หนองหว้า หนี้สาธารณะ หมู่บ้านเกษตรกรรม หมู่เกาะสแปรตลีย์ หุ้น หุ้นแอปเปิ้ล หุ้นโกดัก อาเซียน อิสรภาพทางการเงิน อเมริกา เจริญโภคภัณฑ์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผด็จการ เล่นหุ้น เศรษฐกิจไทย แมคอินทอช แอปเปิ้ล โกดัก โซเวียต ไอเอ็มเอฟ ไอแพด 2
    • สถิติบล็อก
      • 2485037เข้ามาอ่านทั้งหมด:

    This site is using the Handgloves WordPress Theme
    Designed & Developed by George Wiscombe

    Subscribe via RSS