doctorwe.com

Dr.Weraphong Chutipat   A Columnist

Fanpage 828_315
  • ล่าสุด
  • บทความ
  • แจกฟรี
  • การอบรม
  • ชม+ฟัง
  • ผู้เขียน


  • A A A
    • พ.ศ. :
    • 2563
    • 2562
    • 2561
    • 2560
    • 2559
    • 2558
    • 2557
    • 2556
    • 2555
    • 2554
      เดือน :
    • ม.ค.
    • ก.พ.
    • มี.ค.
    • เม.ย.
    • พ.ค.
    • มิ.ย.
    • ก.ค.
    • ส.ค.
    • ก.ย.
    • ต.ค.
    • พ.ย.
    • ธ.ค.

    7 กรกฎาคม 2554
    โพสต์ทูเดย์

    กรีซ… ประเทศฉิบหาย…ช่างมัน ขอให้ข้า…ชนะก่อน

    คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย

    กรีซ… ประเทศฉิบหาย…ช่างมัน ขอให้ข้า…ชนะก่อน

    ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    กรีซ… อีกแล้ว…

    ประเทศกรีซ กลับมาเป็นข่าวบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่สำนักจัดอันดับความน่าเชื่อถือเอสแอนด์พีได้ปรับระดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลงมาอยู่ในระดับ CCC ซึ่งเป็นระดับความน่าเชื่อถือที่ต่ำที่สุดในโลก ส่วนสาเหตุที่เอสแอนด์พีทำเช่นนั้นเป็นเพราะว่า กรีซมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้สำหรับพันธบัตรที่ตนเองได้ออกไปก่อนหน้านี้

    การเมืองกับระบบเศรษฐกิจของกรีซเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออก ในประเทศกรีซมีพรรคใหญ่ที่ยึดครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่ 2 พรรคคือ พรรค Panhellenic Socialist Movement ซึ่งมักเรียกพรรคนี้ว่า พรรค PASOK และอีกพรรคหนึ่งคือพรรคประชาธิปไตยใหม่ซึ่งมักถูกเรียกว่า พรรค ND ทั้งสองพรรคต่างใช้นโยบายประชานิยมอย่างเต็มพิกัดเพื่อเอาชนะในการเลือกตั้งตลอดมา…

    ปี 2539 – 2546… พรรค PASOK โดยนายคอสตัส สมิทิส ก่อนการเลือกตั้ง…

    สัญญาว่า….กรีซจะได้เป็นสมาชิกสหภาพการเงินยุโรป… เงินเฟ้อจะลด… ดอกเบี้ยจะถูก

    สัญญาว่า… นักลงทุนจะไหลเข้ามา… ทุกคนจะมีงานทำ…ทุกคนจะได้ค่าแรงเพิ่ม

    นายสมิทิสทำทุกอย่างที่สัญญาไว้ได้จริงๆ… รัฐบาลสมิทิสได้แสดงผลงานของตนโดยการลดอัตราเงินเฟ้อจาก 15 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ อัตราค่าจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นปีละ 3 เปอร์เซ็นต์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศเพิ่มขึ้นสูงถึง 4 เปอร์เซ็นต์เข้าตามเกณฑ์ของสหภาพการเงินยุโรป กรีซจึงได้เข้าเป็นสมาชิกในปี 2544 และได้ใช้เงินสกุลยูโรเป็นเงินสกุลหลักของประเทศ ทำให้นักลงทุนสามารถกู้เงินสกุลยูโรจากอัตราดอกเบี้ยจาก 10.75 เปอร์เซ็นต์ลดเหลือเพียง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น …มีการลดภาษีและยกเว้นภาษีทั้งหมดสำหรับการซื้อรถยนต์คันใหม่ และไม่มีการขึ้นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และสาธารณูปโภคอื่นๆ

    แต่… ภายหลังพบว่า รัฐบาลนายสมิทิสได้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานทางบัญชี และบิดเบือนความเป็นจริงที่ว่า งบประมาณของกรีซจริงๆแล้วขาดดุลถึง 6.1 เปอร์เซ็นต์ของ GDP แต่โกหกว่าขาดดุลแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะได้เข้าเป็นสมาชิกของสหภาพการเงินยุโรป เพียงเพราะว่า…ต้องการดอกเบี้ยถูก…เงินทุนไหลเข้า…ทำให้ทุกคนมีงานทำ…รัฐบาลและประชาชนกู้เงินกันอย่างมือเติบ

    ปี 2547 – 2552 พรรค ND โดยนายคอสตัส คารามันลิส ก่อนการเลือกตั้ง…

    สัญญาว่า…กรีซจะได้จัดกีฬาโอลิมปิค อย่างแน่นอน

    สัญญาว่า…กรีซจะได้ใช้ “อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ” อินเทอร์เน็ตสาธารณะที่ดีที่สุดในยุโรป

    สัญญาว่า…ทุกคนจะมีงานทำ…ทุกคนจะได้ค่าแรงเพิ่ม

    นายคารามันลิสชนะการเลือกตั้งและได้เป็นนายกรัฐมนตรี ในปีนี้เองที่ประเทศกรีซได้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิค ซึ่งพบว่าอาคารที่พักนักกีฬา สนามกีฬา ระบบถนนและสนามบินยังไม่เสร็จสมบูรณ์ รัฐบาลของนายคารามันลิส จึงทุ่มงบประมาณจำนวนมากเข้าไปแก้ไขและสำเร็จทันพิธีเปิดไปอย่างเฉียดฉิว หลังการแข่งขันพบว่า ค่าใช้จ่ายรวมที่ใช้ในการจัดอยู่ที่ 7 พันล้านยูโร ซึ่งสูงเป็นสองเท่าของงบประมาณที่ตั้งไว้ ทำให้ในปีนั้นกรีซขาดดุลงบประมาณสูงถึง 5.3 เปอร์เซ็นต์ และก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจากเดิม 382 ล้านยูโร แต่ประชาชนมีความสุขเพราะ มีงานทำ…และได้ค่าจ้างสูง…ตรงกับที่สัญญาไว้

    รัฐบาลของนายคารามันลิสยังใช้งบประมาณต่อไปอย่างไม่ยั้งมือ เช่น โครงการ “อินเทอร์เน็ตแห่งชาติ” ที่ใช้เงินสูงถึง 210 ล้านยูโร และเชื่อว่าจะเป็นระบบอินเทอร์เน็ตสาธารณะที่ดีที่สุดในยุโรป

    ช่วงปลายของรัฐบาลนายคารามันลิสได้มีการออกนโยบายอย่างมากมายเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณอย่างมโหฬารของรัฐบาล รัฐบาลประกาศไม่ขึ้นเงินเดือนและไม่มีการรับข้าราชการเพิ่ม ส่งผลให้ประชาชนของกรีซที่เสพติดกับการขึ้นค่าจ้างแรงงานต่อต้าน และท้ายที่สุด…รัฐบาลนายคารามันลิสก็แพ้การเลือกตั้ง

    ปี 2552 พรรค PASOK โดยนายจอร์จ ปาปันเดรอู ก่อนการเลือกตั้ง…

    สัญญาว่า….จะมีการขึ้นค่าแรงต่อไป…และจะไม่มีการลดค่าแรง

    สัญญาว่า… 580 อาชีพ จะเกษียณก่อนวัยที่อายุ 50 ปี

    นายปาปันเดรอูชนะการเลือกตั้งและได้เป็นนายกรัฐมนตรี

    นโยบาย “เกษียณก่อนวัย”…ทำได้จริง ประชาชนกรีซที่มีอาชีพจำนวนกว่า 580 อาชีพ เกษียณได้เมื่อผู้หญิงอายุได้ 50 ปีและผู้ชายอายุได้ 55 ปี เช่น คนทำงานในเหมืองถ่านหิน เจ้าหน้าที่กำจัดระเบิด อาชีพช่างเสริมสวย..ที่คนทำงานจะต้องเจอกับสารเคมีในการทำผมอย่างมากมาย เป็นต้น จากการสำรวจพบว่า กรีซจะต้องจ่ายเงินบำนาญให้กับคนเหล่านี้จำนวนสูงถึง 7 แสนคนหรือคิดเป็น 14 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานทั้งหมด โดยกรีซมีตัวเลขเฉลี่ยของอายุเกษียณอยู่ที่ 61 ปี ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขเฉลี่ยของคนเกษียณอายุที่ต่ำที่สุดในกลุ่มสมาชิกสหภาพการเงินยุโรป

    แต่ในที่สุด… กรีซก็ไม่สามารถหนีพ้น…ความเป็นจริง…ไปได้

    ต้นปี 2553 รัฐบาลนายปาปันเดรอู เริ่มพบว่ารัฐบาลของตนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายสำหรับพันธบัตรของกรีซที่ครบอายุได้ ดังนั้นกรีซจึงขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หลังจากการเจรจา 10 วันเต็มได้ข้อสรุปว่าทั้งสองฝ่ายจะให้เงินกู้แก่กรีซเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 110,000 ล้านยูโร โดยแลกกับการที่กรีซจะต้องลดการขาดดุลงบประมาณครั้งใหญ่ และมีมาตรการในการรัดเข็มขัดอย่างเข้มข้น เช่น การไม่ขึ้นเงินเดือนทั้งภาครัฐ เอกชน และการงดจ่ายเงินโบนัสเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน การเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 21 เปอร์เซ็นต์ไปเป็น 23 เปอร์เซ็นต์ และการเพิ่มภาษีสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น

    หลังการประกาศมาตรการ… ประชาชนกรีซแสดงการโต้ตอบทันควัน คนนับหมื่นนับแสนในกรุงเอเธนส์หยุดงานและออกมาประท้วงต่อมาตรการดังกล่าว ทั้งเมืองเอเธนส์เป็นอัมพาตหลายต่อหลายครั้ง

    วิบากกรรมของกรีซ…เพิ่งจะเริ่มต้น ปัญหาการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัวของกรีซยังคงต้องดำเนินต่อไป และเวลาจะทำให้ปัญหาค่อยๆคลี่คลายให้บรรเทาลงไปเอง

    แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นคือ ประชาชนชาวกรีซ… เสพติดกับการได้ค่าแรงงานสูงเกินความเป็นจริง …เสพติดกับการได้สวัสดิการที่ดีๆจากรัฐ …เสพติดกับการกู้ยืมเงินง่ายๆแม้ว่าจะไม่มีปัญญาจะใช้คืน …และเสพติดกับความมักง่ายที่เกิดจากนโยบายประชานิยมที่แต่ละพรรคแข่งกันหยิบยื่นให้มากว่า 30 ปี จากนี้ไป…พวกเขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไร …จะหากินอย่างไร …และจะอยู่กับอนาคตของตัวเองต่อไปอย่างไร

    ทำให้นึกถึงนักเขียนอารมณ์ขันชาวอเมริกันในศตวรรษที่ 19 ที่ใช้นามปากกาว่า Josh Billing เขาได้กล่าวเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไว้ว่า “Economy is a savings-bank, into which men drop pennies, and get dollars in return.” แปลตามความได้ว่า “เศรษฐกิจก็คล้ายๆฝากเงินในธนาคารนั่นแหละ… ทุกเพนนีที่คุณใส่ลงไป …ในที่สุดคุณก็จะได้หลายๆดอลลาร์กลับคืนมา”หากผู้นำกรีซแต่ละคนมีแนวความคิดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบนี้…กรีซก็คงไม่มีปัญหาอย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ จึงได้แต่หวังว่า…ผู้นำประเทศไทยคนต่อไป คงจะรู้ว่า..ควรจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปในอนาคตอย่างไร

    ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    1,767 Comments

    Posted Under โพสต์ทูเดย์

    No Comments Yet

    You can be the first to comment!

    Sorry, comments for this entry are closed at this time.

      • 10 อันดับ
      • Facebook
      • Twitter

      บทความที่โพสต์ขึ้นเฟสบุ๊ค เมื่อคืนนี้เอาขึ้นเว็บแล้วนะครับสนใจคลิกที่... http://t.co/ylMslUNy

      follow me on
      twitter

    •  
    • Subscribe Email


       

    • Polls Sorry, there are no polls available at the moment.
    • Tag Cloud
      CSR GDP IMF กรีซ การลงทุน ครัวโลก ความรู้นักลงทุน ความเป็นอิสระทางการเิงิน คอร์รัปชัน ค่าแรง ตาน ฉ่วย ทองคำ ธนินทร์ เจียรวนนท์ น้ำท่วม 2554 บัตรเครดิต ประชาธิปไตย พม่า พื้นที่ทับซ้อน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยุโรป วิกฤตซับไพรม์ วิธีบริหารกองทุน วีรพงษ์ ชุติภัทร์ สหรัฐอเมริกา หนองหว้า หนี้สาธารณะ หมู่บ้านเกษตรกรรม หมู่เกาะสแปรตลีย์ หุ้น หุ้นแอปเปิ้ล หุ้นโกดัก อาเซียน อิสรภาพทางการเงิน อเมริกา เจริญโภคภัณฑ์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผด็จการ เล่นหุ้น เศรษฐกิจไทย แมคอินทอช แอปเปิ้ล โกดัก โซเวียต ไอเอ็มเอฟ ไอแพด 2
    • สถิติบล็อก
      • 2489645เข้ามาอ่านทั้งหมด:

    This site is using the Handgloves WordPress Theme
    Designed & Developed by George Wiscombe

    Subscribe via RSS