doctorwe.com

คอลัมน์:  หุ้นส่วน ประเทศไทย

Stay hungry… Stay foolish…

ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

ศูนย์บริการวิชาการธรรมาภิบาล มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม

doctorwe@gmail.com

“Stay Hungry, Stay Foolish.” เป็นคำกล่าวของ สตีฟ จ็อบส์ บุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกที่เพิ่งจะจากพวกเราไป ซึ่งแปลตามความได้ว่า “จงเป็นคนที่หิวอยู่เสมอ.. จงเป็นคนที่โง่อยู่เสมอ” เป็นคำพูดที่จ็อบส์ใช้เตือนตัวเองตลอดเวลา เพื่อให้ตนจะได้ตั้งใจฝ่าฟันอุปสรรคและขยันหาความรู้อยู่ตลอดเวลา ผลงานของ สตีฟ จ็อบส์ นั้นมีมากมายมหาศาล ซึ่งผลงานเหล่านี้ได้เปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตของพวกเราไปอย่างมากมาย ผมเองจึงอยากจะขอร่ายเรียงมาให้คุณผู้อ่านได้รับทราบดังนี้ครับ

• Apple II (1977)  แอปเปิลสองของ สตีฟ จ็อบส์ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกของโลก ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้มีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์จริงๆ เมื่อซื้อแอปเปิลสองแล้ว..สามารถแบกกลับบ้านได้ ซึ่งเป็นครั้งแรกของมนุษย์ที่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน จากที่ก่อนหน้านี้คอมพิวเตอร์จะมีขนาดใหญ่มาก และใช้ในหน่วยงานใหญ่ๆเท่านั้น

 

• Macintosh (1984)  เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีเทคโนโลยี่ที่สำคัญคือ          ระบบกราฟิค ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างสวยงาม และ Mouse ที่ใช้สำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันทุกตัวก็ยังใช้เทคโนโลยี่ทั้งสองตัวนี้อยู่จนถึงทุกวันนี้

 

• Pixar (1986) ในปีดังกล่าว สตีฟ จ็อบส์ ได้ซื้อ Pixar Animation Studio เข้ามา และได้นำเทคโนโลยี่มาสร้างสรรค์ผลงานทางด้านภาพยนตร์ โดยทำให้หนังการ์ตูน เช่น Toy Story มีความเคลื่อนไหวเหมือนชีวิตจริง และด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยม จึงทำให้สตูดิโอแห่งนี้คว้ารางวัลออสการ์ถึง 10 ตัว
• iTunes/ iTunes Store (2001)  หลังจากการล่มสลายของเว็บไซต์ Napster ที่เป็นแหล่งโหลดเพลงออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย จ็อบส์ก็ได้สร้างไอจูนส์สโตร์ขึ้นมาเพื่อให้แฟนเพลงยังสามารถโหลดเพลงต่อไปได้ นอกจากนั้นยังเป็นหนึ่งในแหล่งขายเพลงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งช่วยส่งเสริมศิลปินและวงการเพลงของโลกให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ต่อไป

 

• iPod (2001) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการฟังเพลง ซึ่งให้เสียงเพลงคุณภาพสูงออกมาจากนวัตกรรมชิ้นนี้ มันสามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย นอกจากนั้นไอพอดยังมีขนาดที่เล็กมาก จึงสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้โดยง่าย และทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในหมู่วัยรุ่นและคนทำงาน

 

• iPhone (2007) เมื่อไอโฟนได้ปรากฏโฉมในวงการโทรศัพท์มือถือนั้น มันไม่ได้เป็นโทรศัพท์จอสัมผัส (Touch Screen) เครื่องแรกของโลก แต่ไอโฟนเป็นอุปกรณ์ฟังเพลงคุณภาพสูงที่มาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากโทรศัพท์มือถือต่างๆในยุคนั้น

 

• App Store (2008) แอปสโตร์เป็นนวัตกรรมอีกตัวหนึ่ง ที่ทำให้ไอโฟน ไอพอด และไอแพด แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั่วไปในเวลานั้น ที่มีแต่ซอฟท์แวร์ที่ติดตั้งมาพร้อมกับโทรศัพท์เท่านั้น ไม่สามารถโหลดเพิ่มเติมได้เหมือนผลิตภัณฑ์จากแอปเปิล แอปสโตร์เป็นการเปิดทางให้นักพัฒนาซอฟท์แวร์ทั่วไป ได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าของตนผ่านทางแอปสโตร์ จนถึงเดือนมกราคมที่ผ่านมาพบว่า มีซอฟท์แวร์ที่ขายและแจกฟรีอยู่บนแอปสโตร์สูงถึงหนึ่งหมื่นล้านซอฟท์แวร์

 

• iPad (2010)  หลังจากที่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คถล่มตลาดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และมียอดขายแซงหน้าไปแล้วนั้น หลายคนต่างคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องหานวัตกรรมใหม่ที่ใช้งานได้ง่ายกว่าโน้ตบุ๊ค ใช่..ทุกคนคิดเช่นนั้น..แต่มีคนทำนวัตกรรมใหม่นั้นให้เป็นจริงได้เพียงคนเดียว เขาคือ สตีฟ จ็อบส์ ไอแพดเป็นนวัตกรรมที่ไม่มีคีย์บอร์ด..ไม่มีปากกาสไตลัส ทุกอย่าง..ทำงานได้..ด้วยนิ้วเท่านั้น ด้วยความง่าย..สะดวก..และทำได้เกือบจะทุกอย่าง ทำให้ไอแพดครองใจผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมาก สิ้นปีที่แล้ว (2010) พบว่า ในตลาดแท็บเล็ตทั่วโลกนั้น..ไอแพดครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์

 

 

สตีฟ จ็อบส์ จากเราไปแล้ว…แต่เขายังไม่ได้จากไปจากความทรงจำของเรา เขายังคงทิ้งมรดกทางความคิดและไอเดียให้แก่เพื่อนๆของเขาที่แอปเปิล เพื่อให้เขาเหล่านั้น…สร้างสรรค์นวัตกรรมที่เป็นสุดยอด…เพื่อให้พวกเราได้มีสิ่งที่ดีๆใช้ต่อไปในชีวิต

ทำให้นึกถึงคำพูดของ สตีฟ จ็อบส์ ที่กล่าวไว้เมื่อปี 1993 ว่า “Being the richest man in the cemetery doesn’t matter to me…Going to bed at night saying we’ve done something wonderful–that’s what matters.”  แปลตามความได้ว่า “เป็นคนที่รวยที่สุดในโลกตอนที่จากโลกนี้ไปแล้ว…ไม่ได้มีความหมายอะไรกับผมเลย แต่ก่อนนอน..ได้พูดกับตัวเองว่า..วันนี้เราได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อีกชิ้นหนึ่งแล้ว…นั่นแหละจึงจะเป็นสิ่งที่ความหมายสำหรับผมจริงๆ”  จึงไม่น่าจะแปลกใจว่า ทำไมคนทั่วไปจึงไม่ได้คิดถึง สตีฟ จ็อบส์ ในฐานะที่เป็นบุคคลที่รวยที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่กลับคิดถึง สตีฟ จ็อบส์ ในฐานะบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกต่างหาก

ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์