16 พฤษภาคม 2555
4,076 views
ปัญหายุโรป ถึงเวลาแล้วที่ นักลงทุน..ต้องระวัง !!
คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย
“ปัญหายุโรป ถึงเวลาแล้วที่ นักลงทุน..ต้องระวัง !!”
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
www.facebook.com/doctorweraphong
เวลานี้ดูเหมือนว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกจะระส่ำระสายไปทั่ว หลังจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองของยุโรปกลับมาปะทุ..อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อาจรุนแรงกว่าปีที่แล้วเสียอีก ดังนั้น วันนี้ผมจึงขอเล่าเรื่องปัญหายุโรปให้คุณผู้อ่าน โดยเฉพาะคุณผู้อ่านที่เป็นนักลงทุนได้อ่าน เพื่อที่จะเตรียมตัวและต้องระวังเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาที่มืดมนอยู่ในขณะนี้ ดังนี้ครับ
หนึ่ง ผลการเลือกตั้งชี้ว่า … ประชาชน “ไม่เอาแล้ว”
“สองผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุโรป” คือ นางแองกาลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และนายนิโคลาร์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ได้ร่วมมือกับไอเอ็มเอฟวางเงื่อนไขทางการเงินที่เข้มข้นในการบีบบังคับให้หลายประเทศ.. ต้องรัดเข็มขัดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะประเทศกลุ่ม PIIGS ซึ่งคือประเทศ P-โปรตุเกส I-อิตาลี I-ไอร์แลนด์ G-กรีซ และ S-สเปน มาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าวได้เล่นงานประเทศเหล่านี้อย่างแสนสาหัส วันเวลาที่ผ่านไป ก็เริ่มทำให้ประชาชนเริ่มที่จะ “ไม่เอาแล้ว”
ไม่กี่วันที่ผ่านมา นายซาร์โกซีก็สอบตก ไม่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส อีกสมัยหนึ่ง ประธานาธิบดีคนใหม่ชื่อ ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ซึ่งมีนโยบายที่แทบจะตรงกันข้ามกับ..สองผู้ยิ่งใหญ่ เช่น เน้นการเจริญเติบโตมากกว่าการรัดเข็มขัด การจัดการกับหนี้สินให้อยู่ในวงจำกัด และรัดเข็มขัดน้อยลง รื้อฟื้นความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน และลดอัตราคนว่างงาน
ในที่สุดเขาก็ชนะใจคนฝรั่งเศสได้เป็นผลสำเร็จ โดยคนฝรั่งเศสเลือกเขาเป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส เพราะ คนฝรั่งเศสก็ “ไม่เอาแล้ว” เหมือนกัน
สอง ความรู้สึกว่า “ข้า..ทนไม่ไหวแล้ว” กำลังระบาดไปทั่ว
ความรู้สึก “ข้า..ทนไม่ไหวแล้ว” เริ่มระบาดไปในหลายประเทศ เช่น สเปนเจอปัญหาคนว่างงาน 25 เปอร์เซ็นต์ (ทุก 4 คนจะมีคนตกงาน 1 คน) คนสเปนอายุต่ำกว่า 25 ปี พบว่า ครึ่งหนึ่ง..ตกงานหมด ในสเปนมีคนมากกว่า 100,000 คน ชุมนุมกันตามเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ เพื่อส่งสัญญาณให้รัฐบาลรู้ว่า “ข้า..ทนไม่ไหวแล้ว”
กรีซ..ปัญหาไม่รู้จบ พรรคอนุรักษ์นิยม ได้ที่ 1 แต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคอันดับ 2 มีแนวทางซ้ายจัด คัดค้านข้อตกลง 240,000 ล้านยูโรที่ทำไว้กับไอเอ็มเอฟ และอียู และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง กรีซอาจต้องออกจากยูโรโซน ความเชื่อมั่นต่อเงินยูโรของทั่วโลกก็คง..สั่นคลอนแน่
สาม หญิงเหล็ก จะยังเป็น..หญิงเหล็ก…ต่อไปได้หรือไม่?
พรรคอนุรักษ์นิยม สหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน(ซีดียู) ของนายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี ต้องเผชิญความพ่ายแพ้อย่างน่าอัปยศจากการเลือกตั้งในแคว้นที่มีความสำคัญทางการเมือง และมีประชากรมากที่สุดเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในนอร์ธ ไรน์-เวสต์ฟาเลีย เทความไว้วางใจให้กับพรรคสังคมประชาธิปไตย (เอสดีพี)และพรรคกรีนส์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สำคัญทั้งสองพรรค รวมกันแล้วได้คะแนนเสียงถึง 51 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งไม่พอใจนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาล
การที่พรรคซีดียู ของนางแมร์เคิล มีคะแนนร่วงจาก 34 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 26 เปอร์เซ็นต์นั้น แสดงให้เห็นผลงานที่ตกต่ำสุดขีด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ผลการเลือกตั้งที่ออกมา ยิ่งทำให้พรรคฝ่ายค้านกลางซ้าย มีความฮึกเหิมมากขึ้น
ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งระดับชาติของเยอรมนีในปีหน้า นางแมร์เคิล..จะยังยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤติหนี้ในยุโปต่อไปได้หรือไม่?
สี่ ค่าเงินยูโรตกอย่างต่อเนื่อง ซ้ำเติม..เศรษฐกิจในยุโรป
เงินยูโร ได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ไม่แน่นอนทางการเมืองของกรีซ หลังจากที่ พรรคอันดับ 1 อันดับ 2 และอันดับ3 ได้พยายามจัดตั้งรัฐบาล..แต่ไม่สำเร็จ และหากกรีซไม่สามารถเจรจากับหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมได้แล้ว ก็หมายความว่า กรีซอาจจจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง
นักลงทุนวิตกว่า กรีซ จะไม่สามารถทำตามข้อตกลงเรื่องการควบคุมงบประมาณ เพื่อแลกกับการรับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม และอาจจะต้องถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนในที่สุด
เมื่อนั้น อะไร..จะเกิดกับค่าเงินยูโรและตลาดหุ้นทั่วโลกบ้าง ?
ห้า แล้วเราจะ.. ทำอย่างไรต่อไปดี ?
อ่านถึง..ตอนนี้แล้ว คุณผู้อ่านบางคนอาจคิดว่า “แล้วทีนี้ จะทำยังไง..ต่อไปดีล่ะ ?” ในใจบางคนอาจคิดว่า “ขายหุ้นมันเกลี้ยงทุกตัว เก็บแต่เงินสด..ดีไหม?” “ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า แล้วถือเป็น ยูเอสดอลลาร์…เท่านั้น ?” หรือว่า “ต้องถือทองคำอย่างเดียว..ถึงจะดีที่สุด ใช่ไหม ??”
เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับ..กูรูนักลงทุนหมายเลขหนึ่งของโลก วอร์เรน บัฟเฟตต์ ซึ่งเขาทำดีที่สุดด้วยการอยู่เฉยๆ..อยู่เฉยๆ หลักการลงทุนแบบบัฟเฟตต์นั้น มันฝืนความรู้สึกของคนที่มักจะชอบ “ทำอะไรบางอย่าง” การซื้อแล้วถือหุ้นไว้เฉย ๆ แบบบัฟเฟตต์นั้น ไม่ใช่เรื่องทำได้ง่าย
แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า วิธีของบัฟเฟตต์..มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณผู้อ่านบางคนหรือเปล่า? แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าจะดีกับคุณผู้อ่านทุกคนแน่ๆ คือ การมีสติ..การมีสติ ดังนั้นจากนี้ไปการลงทุนอาจต้องระมัดระวังมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ จงมีสติ ศึกษาให้รอบคอบ ถามเพื่อนๆที่เป็นนักลงทุนบ้าง จากนั้น คุณผู้อ่านก็คงจะต้องตัดสินใจในการลงทุนทุกอย่าง..ด้วยตัวเอง
ทำให้นึกถึงคำกล่าวของ Martin Luther King, Jr. นักเรียกร้องความเสมอภาคและต่อต้านการกีดกันสีผิวชาวอเมริกันที่พูดไว้ว่า “Every man must decide whether he will walk in the light of creative altruism or in the darkness of destructive selfishness.” แปลตามความได้ว่า “ทุกคนคงจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเดินเข้าไปสู่..แสงสว่างที่บรรเจิด หรือเดินเข้าไปหา..ความมืดมนที่จ้องทำร้ายอยู่ก็ตาม” ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านโชคดี นะครับ…
ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
No Comments Yet
You can be the first to comment!
Sorry, comments for this entry are closed at this time.