7 สิงหาคม 2555
2,896 views
10 วิธีง่ายๆ สู่ อิสรภาพทางการเงิน (ตอนที่ 1)
คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย
10 วิธีง่ายๆ สู่ อิสรภาพทางการเงิน (ตอนที่ 1)
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
ผมมีบทความอยู่ 2 ฉบับที่ผมคิดว่าเหมาะสำหรับคุณผู้อ่านที่ใฝ่ฝันอยากจะมี “อิสรภาพทางการเงิน” บทความแรกเป็นของคุณ Ken Hawkins ผู้ก่อตั้ง Ohow Investor Consultants โดยบทความของเขามีชื่อว่า “10 Simple Steps to Financial Security Before 30” หรือ “10 วิธีง่ายๆ สู่ความมั่นคงทางการเงิน.. ก่อนอายุ 30” ส่วนอีกบทความหนึ่งเป็นของคุณ Denise Appleby ผู้ก่อตั้ง Appleby Retirement Consulting บทความของเธอมีชื่อว่า “10 Tips for Achieving Financial Security” หรือ “10 เคล็ดลับ ในการบรรลุถึงความมั่นคงทางการเงิน”
เพื่อให้คุณผู้อ่านเข้าใจง่าย..และนำไปประยุกต์ใช้ต่อโดยสะดวก ผมจึงขอรวบรวมบทความทั้งสองและเรียบเรียงใหม่ รวมถึงแก้ไขเนื้อหาบางส่วนเพื่อให้สอดคล้องกับสังคมไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ
หนึ่ง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
จงมีความสุขกับชีวิตของคุณเมื่อคุณยังมีอายุไม่มากนัก เพราะว่าเมื่อคุณแก่ลง..แก่ลง.. คุณก็จะต้องประสบกับเรื่องที่จะเป็นทุกข์อีกมากมาย การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่งจะต้องรักษาสมดุลระหว่างครอบครัวกับเพื่อนฝูง รักษาสมดุลระหว่างเวลาที่ใช้ทำงานกับเวลาที่ใช้พักผ่อน ในมุมมองทางด้านการเงิน.. คุณไม่สามารถใช้ชีวิตในวันนี้เหมือนวันสุดท้ายของคุณได้ แต่คุณจะต้องรักษาสมดุลระหว่างการใช้จ่ายในวันนี้กับการใช้จ่ายในวันหน้า ดังนั้นการค้นหาความสมดุลดังกล่าว.. จึงเป็นขั้นตอนแรกที่จะนำไปสู่.. อิสรภาพทางการเงิน
สอง ผลักดันให้ตนเองต้อง “เรียนรู้” อยู่ตลอดเวลา
ความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ คือสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุดของคุณ การลงทุนทางด้านการศึกษาและการฝึกอบรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เงินออมหรือเงินลงทุนของคุณลดลงไปบ้างก็ตาม แต่มันจะช่วยผลักดันให้คุณได้ความรู้มากขึ้น ได้ตำแหน่งงานที่ดีขึ้น หรือได้สังคมกับคนอื่นมากขึ้น และจะทำให้..คุณมีความสุขมากขึ้น
การมองว่าตัวของคุณเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดนั้น จะมีค่าได้มากขนาดนั้นก็จะต้องผ่านการทำงานหนัก ผ่านการเรียนรู้และประสบการณ์ ซึ่งจะนำไปสู่อาชีพและตำแหน่งงานที่ดีกว่า ความพยายามดังกล่าวจะทำให้เกิดผลตอบแทนจำนวนมหาศาล มากกว่า..การพยายามที่จะประหยัดเพื่อเก็บออมเสียอีก
สาม หัดตัวเองให้เป็น..“คนชอบวางแผน” มากกว่าเป็น..“คนชอบอดออม”
มีงานวิจัยจำนวนมากที่พบว่าคนที่มีการวางแผนสำหรับอนาคต จะประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่ไม่มีแผนการอะไรเลย คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ชอบตั้งเป้าหมายให้ชีวิต เขาจะตั้งเป้าหมายและกรอบเวลาไว้ เพื่อจะได้บังคับให้ตนเองต้องมุ่งมั่นดำเนินชีวิตให้บรรลุเป้าหมายตามเวลาที่วางไว้
การเป็นคนชอบวางแผน จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการมี “อิสรภาพทางการเงิน” การเขียนเป้าหมายและกรอบเวลาของตนเองลงไปในกระดาษ จะทำให้คุณต้องวางแผนเพื่อให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง ที่เหลือก็คือ คุณเขียนมันหรือยัง ? ถ้ายัง.. เขียนมันเลย..ตอนนี้
สี่ ต้องบรรลุเป้าหมายระยะสั้นให้ได้ แล้ว..เป้าหมายระยะยาวจะมาหาคุณเอง
“ชีวิต..มีแต่ความไม่แน่นอน” ดังนั้นถ้าเป็นนักลงทุนรุ่นเยาว์ที่ยังมีอายุไม่ถึงสามสิบ คุณไม่ต้องไปคิดถึงการตั้งเป้าหมายว่า.. อายุเท่าไร..จะเกษียณอายุดี คุณควรจะคิดถึงการหารายได้ การลดค่าใช้จ่าย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเพิ่มขนาดการลงทุน และการทำให้เงินลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดี..บนพื้นฐานความเสี่ยงที่ต่ำ
หากคุณคิดในลักษณะนี้อยู่ตลอดเวลา ในที่สุดเงินที่คุณได้เพิ่มขึ้นมาในแต่ละปี ก็จะทำให้คุณถึงจุดที่อยากจะเลิกทำงานได้เร็วขึ้น เพราะมีเงินเพียงพอที่จะมี “อิสรภาพทางการเงิน” ได้อย่างสบายๆ ดังนั้นจึงขอแค่คุณตั้งเป้าหมายระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง.. และมุ่งมั่นผลักดันตัวเองให้ไปถึง ในที่สุดเป้าหมายระยะยาวก็จะมาหาคุณเอง
ห้า เลือกสไตล์การลงทุน..ในแบบของคุณ
หากคุณผู้อ่านได้ฟังการวิเคราะห์หุ้นอยู่บ่อยๆก็จะพบว่า เรามักจะได้ยินคำพูดที่ว่า “ควรจะกระจายพอร์ตการลงทุนของท่านให้อย่างเหมาะสม” ซึ่งผมคิดว่าคำพูดดังกล่าว..ไม่ได้บอกอะไรเลย ดังนั้นสิ่งที่ผมคิดว่าคุณผู้อ่านควรทำก็คือ ประเมินตัวเองว่า เราเป็นชอบเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ถ้ามาก..ก็ลงทุนมากได้ ถ้าน้อย..ก็ต้องฝากเงินเยอะหน่อย โดยเฉพาะถ้าคิดจะลงทุน..ก็ควรจะศึกษาการลงทุนจากเอกสารและการพบปะพูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่จำเป็นว่าจะต้องกระจายการลงทุน..แบบบังคับตัวเอง เช่น กูรูบางคนบอกว่า.. ถ้าคุณอายุ 50 ต้องฝากเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ ลงทุน 50 เปอร์เซ็นต์ ก็เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา เป็นต้น
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ปัจจุบันท่านน่าจะอายุมากกว่า 50 ปีแล้ว แต่ท่านก็ไม่ได้ฝากเงิน 50 ลงทุน 50 อย่างที่กูรูข้างต้นบอก แต่ท่านกลับนำเงินทั้งหมดไปลงทุนซื้อหุ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้ท่านกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว ดังนั้นผมจึงคิดว่าคุณผู้อ่านสามารถเป็นคนกำหนดสไตล์การลงทุนของตัวเองได้ และควรเลือกสไตล์การลงทุน.. ในแบบของคุณผู้อ่านเอง ถึงจะดีที่สุด
ทำให้นึกถึงคำพูดของ John F. Kennedy อดีตประธานาธิบดีชื่อก้องโลกของสหรัฐอเมริกา ที่พูดเกี่ยวกับ “อิสรภาพ” ไว้ว่า “The cost of freedom is always high, but Americans have always paid it. And one path we shall never choose, and that is the path of surrender, or submission.” แปลตามความได้ว่า “ค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่ง- อิสรภาพ นั้นสูงมาก แต่เราชาวอเมริกันก็เลือกที่จะจ่าย แต่ทางหนึ่งที่เราจะไม่เลือกแน่ๆนั่นก็คือ การยอมแพ้” เมื่อฟังดังนี้แล้ว ก็ขอให้.. พวกเราอย่ายอมแพ้ที่จะพาตนเองไปสู่ “อิสรภาพทางการเงิน” ..โชคดีนะครับ
อนึ่ง ติดตามตอนจบได้ ในโพสต์ทูเดย์ เร็วๆนี้..นะครับ
ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
No Comments Yet
You can be the first to comment!
Sorry, comments for this entry are closed at this time.