8 สิงหาคม 2555
2,836 views
10 วิธีง่ายๆ สู่ อิสรภาพทางการเงิน (ตอนจบ)
คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย
10 วิธีง่ายๆ สู่ อิสรภาพทางการเงิน (ตอนจบ)
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
ในตอนที่แล้วผมได้พาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจวิธีง่ายๆ (แต่..อาจทำไม่ง่าย) สู่อิสรภาพทางการเงินมาแล้ว 5 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย หนึ่ง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สอง ผลักดันให้ตนเองต้อง “เรียนรู้” อยู่ตลอดเวลา สาม หัดตัวเองให้เป็น..“คนชอบวางแผน” มากกว่าเป็น..“คนชอบอดออม” สี่ ต้องบรรลุเป้าหมายระยะสั้นให้ได้ แล้ว..เป้าหมายระยะยาวจะมาหาคุณเอง และห้า เลือกสไตล์การลงทุน..ในแบบของคุณ ในตอนนี้ผมจะขอแนะนำวิธีง่ายๆ สู่อิสรภาพทางการเงินที่เหลืออีก 5 ข้อดังนี้ครับ
หก ต้องมั่นใจว่า ค่าใช้จ่ายในการใช้ชีวิต.. ยังตามหลังเงินที่หาได้
สิ่งที่จำเป็นลำดับต้นๆในการวางแผนสู่อิสรภาพทางการเงินก็คือ คุณต้องรู้ว่าสไตล์การใช้ชีวิตของคุณ เดือนๆหนึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร หลังจากนั้นก็มาเช็คว่ารายได้ต่อเดือนเป็นเท่าไร จากนั้นคุณก็จะประมาณการรายรับสุทธิต่อเดือนได้ โดยทั่วไปรายได้ต่อปีจะเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการขึ้นเงินเดือน หรือรายได้เสริมจากทางอื่น
เวลาที่คนส่วนใหญ่มีความรู้สึกว่าชีวิตลำบากขึ้นก็คือ เวลาที่เขาเปลี่ยนหรือเพิ่มมาตรฐานการใช้ชีวิตของตนเอง เช่น การซื้อบ้านใหม่ ซื้อรถใหม่ และอื่นๆ แต่สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดคือ การพยายามเปลี่ยนมาตรฐานการดำรงชีวิตของตัวเอง เพื่อที่จะเข้าสู่สังคมที่สูงขึ้นไปอีกให้ได้
เจ็ด ต้องอ่านงบการเงินให้เป็น
อาจกล่าวได้ว่า วิธีการหาเงินมี 2 วิธีคือ หนึ่ง วิธีออมเงิน และสอง วิธีทำให้เงินงอกงามขึ้น วิธีแรกคุณยังมีขอบเขตที่จะได้เงินเพิ่มขึ้น เช่น ค่าใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท ปกติใช้ 30,000 บาท เหลือเก็บ 20,000 บาท แต่ถ้าคุณเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตประหยัดขึ้นอาจใช้แค่ 15,000 บาท และเหลือเก็บสูงขึ้นเป็น 35,000 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตามวิธีแรกนี้จึงมีเพดานในการเก็บเงินนั่นคือ คุณจะไม่มีวันเก็บได้เกินเดือนละ 50,000 บาท
ขณะที่วิธีที่สองคือ การทำให้เงินเจริญงอกงามขึ้นนั้น จะทำให้คุณสามารถหาเงินอย่างไม่มีเพดานจำกัด การเปิดกิจการ หรือการลงทุนซื้อหุ้นก็เป็นทางเลือกของวิธีนี้ อย่างไรก็ตามวิธีดังกล่าวจะต้องมีความรู้ทางด้านบัญชีและการเงินขั้นพื้นฐานอยู่บ้าง เช่น การอ่านงบดุล การอ่านงบกำไรขาดทุน เป็นต้น ซึ่งผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านนี้มีมาก่อน ก็สามารถฝึกอบรมที่จะอ่านและวิเคราะห์งบการเงินได้ ดังนั้นถ้าคุณยังอ่านงบการเงินไม่เป็น คงจะต้องรีบขวนขวายหาความรู้เหล่านี้มาใส่ตัว จะได้เริ่มต้นหาเงินอย่างไม่มีเพดานมาจำกัดเสียที
แปด กล้าลงทุน..ในสิ่งที่คิดว่าเสี่ยง..แต่จัดการได้
คุณต้องมีความสามารถในการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับการลงทุนได้ การลงทุนผิดพลาด เช่น กิจการล้มละลาย หรือ ซื้อหุ้นแล้ว..หุ้นตก สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าคุณประเมินไว้แล้ว และยอมรับว่าจะความเสียหายนั้นๆจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่ความเสียหายดังกล่าวจะต้องไม่สามารถส่งผลทำให้คุณไม่มีเงินที่จะลงทุนต่อไปได้
การเปลี่ยนงานใหม่ การเปิดกิจการใหม่ การซื้อหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูง สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงสูงทั้งสิ้น แต่มันจะส่งผลต่อตัวคุณไม่มากนัก..ถ้าคุณยังมีอายุไม่มาก
คนที่มีอายุมากส่วนใหญ่จะผ่อนบ้านผ่อนรถกับสถาบันการเงินใกล้หมดแล้ว หรือส่งบุตรหลานเรียนหนังสือก็ใกล้จะจบแล้วเช่นกัน คนเหล่านี้จึงไม่ควรที่จะทำอะไรที่มีความเสี่ยงสูงมากนัก เพื่อการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข
เก้า ต้องกล้ายืมเงิน..เพื่อการลงทุน
“ถ้าเรากำลังจะซื้อ..ของที่คิดว่าจำเป็น” นั่นก็คือ “เรากำลังคิดที่จะซื้อ..ของที่ไม่จำเป็น” นั่นเอง ประโยคนี้ยังคงใช้ได้ดี ถ้าเราต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการผ่อนส่งเครื่องอำนวยความสะดวกทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้จะบั่นทอนโอกาสที่จะเข้าถึง “อิสรภาพทางการเงิน” ได้
ในทางกลับกัน การกล้ายืมเงินมาลงทุนในสิ่งที่คิดว่าจะให้ผลตอบแทนดี..และมีความเสี่ยงที่สามารถจัดการได้ จะเป็นเสมือนคานทดน้ำหนักที่จะเร่งให้เราไปถึง “อิสรภาพทางการเงิน” ได้เร็วขึ้นไปอีก แต่ผมแนะนำให้คุณผู้อ่านที่อายุยังไม่มากเท่านั้นนะครับ
สิบ แสวงหาเครื่องมือทางการเงินที่จะทำให้เงินของคุณ..งอกงามขึ้น
LTF – Long Term Equity Fund หรือที่เรียกว่า “กองทุนรวมหุ้นระยะยาว” เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในหุ้น ส่วน RMF – Retirement Mutual Fund หรือ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์พิเศษแตกต่างจาก LTF คือ RMF เป็นเครื่องมือหนึ่งในการสะสมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ โดยผู้ลงทุนที่ลงทุนซื้อ LTF หรือ RMF ต่างก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อเป็นแรงจูงใจ
เครื่องมือสองตัวข้างต้นเป็นเพียงเครื่องมือทางการเงินทั่วไป ที่ผู้เสียภาษีจำนวนมากรู้จักกันดี แต่ยังจะมีเครื่องมือทางการเงินอีกเป็นจำนวนมากที่เรายังไม่คุ้ยเคยกัน เช่น การประกันชีวิต การเลี้ยงดูพ่อแม่ และอีกมากมาย สำหรับคุณผู้อ่านที่ใฝ่ฝันจะบรรลุถึง “อิสรภาพทางการเงิน” ในเร็ววัน จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้อย่างละเอียด เพราะนั่นหมายถึง ทุกบาท..ที่ประหยัดได้ ก็คือทุกบาท..ที่นำไปหาเงินต่อยอดได้
ทำให้ต้องพูดถึงอดีตผู้นำของสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ John F. Kennedy โดยเขาเคยกล่าวเกี่ยวกับ “อิสรภาพ” ไว้ว่า “The best road to progress is freedom’s road.” แปลตามความได้ว่า “หนทางแห่งความก้าวหน้าก็คือ หนทางแห่งอิสรภาพนั่นเอง” ดังนั้นคนผู้อ่านที่อยากมี “อิสรภาพทางการเงิน” ก็คือคนที่ต้องการความก้าวหน้านั่นเอง ..ขอให้สมหวังนะครับ
ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
No Comments Yet
You can be the first to comment!
Sorry, comments for this entry are closed at this time.