doctorwe.com

Dr.Weraphong Chutipat   A Columnist

Fanpage 828_315
  • ล่าสุด
  • บทความ
  • แจกฟรี
  • การอบรม
  • ชม+ฟัง
  • ผู้เขียน


  • A A A
    • พ.ศ. :
    • 2563
    • 2562
    • 2561
    • 2560
    • 2559
    • 2558
    • 2557
    • 2556
    • 2555
    • 2554
      เดือน :
    • ม.ค.
    • ก.พ.
    • มี.ค.
    • เม.ย.
    • พ.ค.
    • มิ.ย.
    • ก.ค.
    • ส.ค.
    • ก.ย.
    • ต.ค.
    • พ.ย.
    • ธ.ค.

    1 เมษายน 2556

    3,746 views

    วิกฤตไซปรัส: วิกฤต หรือ…โอกาส

    พิมพ์หน้านี้

     

     

    คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย
    วิกฤตไซปรัส: วิกฤต หรือ…โอกาส
    ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
    วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
    www.facebook.com/doctorweraphong

    วิกฤตหนี้สาธารณะของประเทศในกลุ่มยูโรโซนได้กลับมาหลอกหลอนบรรดานักลงทุนทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง ในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยตกลงไปถึง 50.55 จุดภายในวันเดียว และมียอดซื้อขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 1 แสนล้านบาท ผมเอง..ไม่แน่ใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นลางร้ายสำหรับตลาดหุ้นเมืองไทยหรือเปล่า? ผมจึงอยากให้ข้อมูลเท่าที่ผมมีอยู่ เพื่อให้คุณผู้อ่านโดยเฉพาะท่านที่เป็นนักลงทุน “มีสติ” ในการลงทุนต่อไป ดังนี้ครับ

    หนึ่ง “ต้นเหตุ” ปัญหาของไซปรัส
    สาธารณะไซปรัส เป็นหนึ่งใน 17 ประเทศที่อยู่ในกลุ่มยูโรโซน ดังนั้นไซปรัสจึงต้องใช้เงินยูโรเป็นเงินสกุลหลักของประเทศด้วยเช่นกัน ไซปรัสมีจำนวนประชากรประมาณ 1 ล้านคน และมีขนาดผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ประมาณ 24 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีขนาดเล็กมาก (ประเทศไทยน่าจะมีประมาณ 370 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 15 เท่าของไซปรัส)
    ไซปรัส มีธุรกิจภาคการเงินที่ใหญ่มาก มีเงินฝากจำนวนมหาศาลคาดว่าประมาณ 8 เท่าของขนาดจีดีพี เงินส่วนใหญ่จะมาจากนักธุรกิจชาวรัสเซีย และไซปรัสก็มีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยดีว่าเป็นหนึ่งใน
    “แหล่งฟอกเงินของโลก” พอหลายๆประเทศในกลุ่มยูโรโซนมีปัญหา เงินฝากจำนวนมหาศาลก็หลั่งไหลออกจากไซปรัสไปอย่างรวดเร็ว นำมาซึ่งการขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง

    สอง วิธีการ “แก้ปัญหา” ของไซปรัส
    เมื่อไซปรัสขาดสภาพคล่อง ก็เป็นธรรมเนียมที่จะต้องไปคุยกับหน่วยงานหนึ่งที่มีชื่อว่า “ทรอยกา” ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารกลางแห่งยุโรป (อีซีบี) และสหภาพยุโรป โดยยื่นขอเสนอขอกู้เงินจำนวน 100,000 ล้านยูโร แต่ต้องแลกกับมาตรการรัดเข็มขัดโดยจะต้องหาเงินจำนวน 58,000 ล้านดอลลาร์ให้ได้
    “ทรอยกา” ได้บังคับให้ไซปรัสหักภาษีเงินฝากประชาชนที่ฝากไม่เกิน 100,000 ยูโรจะถูกหัก 6.9% และที่ฝากเกิน 100,000 ยูโรจะถูกหัก 9.9% เพื่อให้ได้เงินจำนวนดังกล่าว แต่รัฐสภาไซปรัสโหวตไม่ผ่านหลักการดังกล่าว ทำให้ไซปรัสต้องหันไปพึ่งมิตรประเทศที่ฝากความหวังไว้นั่นคือ รัสเซีย แต่ในที่สุด..รัสเซียก็ปฎิเสธการขอกู้เงินของไซปรัส

    สาม เมื่อไซปรัสยังต้อง “ดิ้นรน” หาทางออก
    หลังจากถูกปฎิเสธการขอเงินกู้ดังกล่าว ไซปรัสจึงต้องหันกลับไปคุยกับทรอยกาเกี่ยวกับการขอเงินกู้ต่อไป โดยวิธีการที่ออกมาในช่วงแรกจะเป็นการใช้ “เงินบำนาญ” และ “เงินสวัสดิการสังคม” ของประชาชนชาวไซปรัส ซึ่งในปัจจุบันก็ดำรงชีวิตอย่างยากลำบากอยู่แล้ว หากเงินดังกล่าวที่จะมาช่วยเจือจุนหายไปในพริบตา รัฐบาลก็คงจะต้องเจอกับ “การลุกฮือครั้งยิ่งใหญ่ของ..ประชาชนชาวไซปรัส” อย่างแน่นอน
    รัฐบาลไซปรัสจึงมีแนวโน้มที่จะเลือกวิธีการที่จะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งดังกล่าว โดยการนำวิธีการหักภาษีเงินฝากประชาชนมาใช้อีกครั้งหนึ่ง แต่ในครั้งนี้รัฐบาลไซปรัสจะไม่มีการหักภาษีใดๆต่อบัญชีเงินฝากที่มีเงินฝากน้อยกว่า 1 แสนยูโร แต่จะไปเล็งใช้วิธีดังกล่าวกับบัญชีเงินฝากที่มียอดสูงกว่า 1 แสนยูโร ซึ่งคาดว่าส่วนใหญ่น่าจะเป็นเงินฝากของนักธุรกิจชาวรัสเซีย โดยมาตรการภาษีเงินฝากที่จะนำมาใช้กับบัญชีที่มีเงินฝากจำนวนมากนั้นอาจต้องถูกหักภาษีสูงถึง 20%

    สี่ ปัญหาของไซปรัส… “ใกล้จะจบแล้ว” ใช่ไหม?
    ผมเองมองว่า ไซปรัสและบรรดาประเทศที่มีหนี้สาธารณะในระดับสูงในกลุ่มยูโรโซน ยังจะต้องผจญกับปัญหาการขาดสภาพคล่องและวิกฤตการเงินเป็นระยะๆต่อไป และจะไม่มีทางจบสิ้นลงในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้
    สาเหตุเป็นเพราะว่า บรรดาปัญหาดังกล่าวยังไม่ถึงจุดต่ำสุดเลย ตัวอย่างเช่น หลังจากที่ไซปรัสได้รับเงินกู้จากทรอยกาแล้ว ไซปรัสคงจะต้องเผชิญกับปัญหาเงินทุนไหลออกครั้งใหญ่ และอาจจะเป็น “เงินไหลออกที่มีจำนวนสูงสุด..ในประวัติศาสตร์” ของไซปรัส หากไซปรัสแก้ปัญหาความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้เร็ว ก็อาจทำให้เงินทุนไหลกลับ แต่หากใช้วิธีหักภาษีเงินฝากดังกล่าวแล้ว ในที่สุดนักลงทุนชาวรัสเซีย..ซึ่งเป็นนักลงทุนกลุ่มใหญ่ที่สุดของไซปรัส ก็คงเข็ดขยาด..และไม่กล้ากลับมาข้องแวะกับไซปรัสอีกต่อไป

    ห้า “ชะตากรรม” ของตลาดหุ้นไทย ต่อไป..จะเป็นอย่างไร?
    ประเทศไทยในมุมมองของผม เราพึ่งพาการส่งออกสูงมากถึงประมาณ 70% ของจีดีพีของประเทศ นั่นแสดงให้เห็นว่า ถ้าการส่งออกของไทยมีปัญหาแล้ว ประชาชนคนไทยคงต้องเจอกับปัญหาการดำเนินชีวิตอย่างแน่นอน ดังนั้นเราควรจะพิจารณาแนวโน้มการส่งออกของไทยกันซักหน่อย
    ตัวเลขการส่งออกของไทย ถ้ามองแบบง่ายๆอาจพอสรุปเป็นภาพกว้างๆได้ว่า ไทยส่งออกไปยุโรปประมาณ 10-20% ส่งออกไปสหรัฐอเมริกาในปริมาณใกล้เคียงกับยุโรปคือ 10-20% และส่งออกไปยังประเทศในเอเชียด้วยกันมากกว่า 60% ด้วยตัวเลขดังกล่าว คุณผู้อ่านเห็นไหมครับว่า ประเทศไทยจะลำบากมากไหม?..ถ้าประเทศไซปรัสล้มละลาย ขณะที่คู่ค้าในเอเชียของเราส่วนใหญ่ยังคงมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีอยู่
    ดังนั้นในเวลานี้ คุณผู้อ่านคงจะต้อง “มีสติ” และตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ ส่วนตัวผมเองกลับคิดว่า นอกจากตลาดหุ้นไทยจะไม่ย่ำแย่ตามอีกหลายๆตลาดในโลกแล้ว ผมยังคิดต่อว่า…อีกไม่กี่ปีหลังจากนี้ ประเทศไทยอาจจะเป็น “หนึ่งในประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก” อีกด้วย

    วิกฤตไซปรัสครั้งนี้ ผมจึงไม่แน่ใจว่า มันเป็น…วิกฤต หรือมันเป็น…โอกาส กันแน่?

    พิมพ์หน้านี้

    ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    3,746 views  Comments

    Posted Under โพสต์ทูเดย์

    No Comments Yet

    You can be the first to comment!

    Leave a comment

    * = Required

    CAPTCHA Image
    Refresh Image
    *

      • 10 อันดับ
      • Facebook
      • Twitter

      บทความที่โพสต์ขึ้นเฟสบุ๊ค เมื่อคืนนี้เอาขึ้นเว็บแล้วนะครับสนใจคลิกที่... http://t.co/ylMslUNy

      follow me on
      twitter

    •  
    • Subscribe Email


       

    • Polls Sorry, there are no polls available at the moment.
    • Tag Cloud
      CSR GDP IMF กรีซ การลงทุน ครัวโลก ความรู้นักลงทุน ความเป็นอิสระทางการเิงิน คอร์รัปชัน ค่าแรง ตาน ฉ่วย ทองคำ ธนินทร์ เจียรวนนท์ น้ำท่วม 2554 บัตรเครดิต ประชาธิปไตย พม่า พื้นที่ทับซ้อน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยุโรป วิกฤตซับไพรม์ วิธีบริหารกองทุน วีรพงษ์ ชุติภัทร์ สหรัฐอเมริกา หนองหว้า หนี้สาธารณะ หมู่บ้านเกษตรกรรม หมู่เกาะสแปรตลีย์ หุ้น หุ้นแอปเปิ้ล หุ้นโกดัก อาเซียน อิสรภาพทางการเงิน อเมริกา เจริญโภคภัณฑ์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผด็จการ เล่นหุ้น เศรษฐกิจไทย แมคอินทอช แอปเปิ้ล โกดัก โซเวียต ไอเอ็มเอฟ ไอแพด 2
    • สถิติบล็อก
      • 2485040เข้ามาอ่านทั้งหมด:

    This site is using the Handgloves WordPress Theme
    Designed & Developed by George Wiscombe

    Subscribe via RSS