doctorwe.com

Dr.Weraphong Chutipat   A Columnist

Fanpage 828_315
  • ล่าสุด
  • บทความ
  • แจกฟรี
  • การอบรม
  • ชม+ฟัง
  • ผู้เขียน


  • A A A
    • พ.ศ. :
    • 2563
    • 2562
    • 2561
    • 2560
    • 2559
    • 2558
    • 2557
    • 2556
    • 2555
    • 2554
      เดือน :
    • ม.ค.
    • ก.พ.
    • มี.ค.
    • เม.ย.
    • พ.ค.
    • มิ.ย.
    • ก.ค.
    • ส.ค.
    • ก.ย.
    • ต.ค.
    • พ.ย.
    • ธ.ค.

    10 มกราคม 2557

    1,236 views

    วิกฤต..การเมืองไทย โอกาส..ตลาดหุ้นไทย ตอนจบ

    พิมพ์หน้านี้

     

     

     

     

     

    คอลัมน์:  หุ้นส่วน ประเทศไทย

    วิกฤต..การเมืองไทย  โอกาส..ตลาดหุ้นไทย  ตอนจบ

    ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต

    www.facebook.com/DoctorweClub

    ในตอนที่ 1  เราได้คุยกันไปแล้วถึงข้อที่หนึ่งที่ว่า วิกฤตการเมืองในเมืองไทยเท่าที่ผ่านมา มักจะกินระยะเวลาไม่ถึงปี หลังจากนั้นดัชนีตลาดหุ้นก็จะค่อยๆดีดตัวกลับมาอยู่ในระดับเดิม ในวันนี้ผมจะขอขยายความต่อในเรื่อง “วิกฤต..การเมืองไทย โอกาส..ตลาดหุ้นไทย” ตอนจบ  โดยกล่าวถึงกลุ่มหุ้นที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากวิกฤตดังกล่าว ดังต่อไปนี้ครับ

    สอง  ปัจจุบันนี้…เศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่ง

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2557  น่าจะมีจังหวะการฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยอาจสามารถขยายตัวได้ที่ประมาณ 4.0-5.0%  โดยอยู่ภายใต้สมมติฐานที่เศรษฐกิจคู่ค้าหลักของไทยจะต้องมีทิศทางการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเงื่อนไขทางการเมืองที่ยังอยู่ในวงจำกัด ทั้งนี้ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่น่าจะมีภาพด้านบวกมากขึ้น น่าจะเอื้อต่อการฟื้นตัวกลับมาของสินค้าส่งออกรายการสําคัญของไทยหลายรายการด้วยกัน

    ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 2557 เติบโตในอัตราที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 7.0% จากที่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.5% ในปี 2556  อนึ่ง แม้หลายๆ เงื่อนไขอาจทําให้แนวโน้มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานยังมีความไม่แน่นอน แต่หากรัฐบาลสามารถผลักดันการเบิกจ่ายเม็ดเงินลงทุนในส่วนที่อยู่ในงบประมาณประจําปีให้มีความต่อเนื่อง ก็น่าจะช่วยทําให้บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมในปี 2557 มีภาพที่ดีขึ้นมาขยายตัวประมาณ 5.3% ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ดีกว่าในปี 2556  ซึ่งคาดว่า จะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

    อาจกล่าวง่ายๆได้ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2557 ยังคงแข็งแกร่งอยู่ โดยเฉพาะภาคส่งออกซึ่งจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเมืองไม่มากนัก ปีหน้าจึงเป็นอีกปีหนึ่งที่เศรษฐกิจแม้ว่าจะไม่สดใสนัก แต่ก็คาดว่าจะยังคงเติบโตอยู่ดี

    สาม  หุ้นท่องเที่ยว  อาจเป็นกลุ่มที่เปิดโอกาส “ทำกำไร” ได้อย่างงดงาม

    ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยสูงถึง 21.7 ล้านคน คิดเป็นเพิ่มขึ้นสูงถึง 22.3% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน แต่หากประมาณการตัวเลขทั้งปี 2556 แล้ว ก็คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนไทยน่าจะสูงถึงระดับ 25.5 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 14.3% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2555

    นอกจากนั้นหากเราจำแนกนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มประเทศแล้ว ก็จะพบว่ากลุ่มประเทศที่มาจากเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น  เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงที่สุด โดยคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 61.3% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด จึงไม่น่าแปลกใจว่า ตามแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยทุกวันนี้ จึงมักจะพบเห็นคนจีน คนญี่ปุ่น เป็นจำนวนมาก  ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ในปัจจุบันพบว่าการท่องเที่ยวของคนจีนยังอยู่ในอัตราที่ต่ำมากกล่าวคือ ค่าเฉลี่ยการท่องเที่ยวของคนจีนต่อคนอยู่ที่ 0.26 ทริปต่อปี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป ตัวเลขการท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อคนจะอยู่ที่ 1.5-2 ทริปต่อปี พูดง่ายๆก็คือ ในอนาคตนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเยือนประเทศไทยจะมีโอกาสเติบโตได้อีกหลายๆเท่าตัว

    นักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียตะวันออกจะเป็นกลุ่มที่มีความรู้สึกไวต่อเหตุการณ์มากที่สุด ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น กลุ่มนี้ก็จะยกเลิกก่อน ซึ่งจะส่งผลทางจิตวิทยาทันทีไปยังราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นหุ้นท่าอากาศยานไทย (AOT)  หุ้นกลุ่มโรงแรม (ERW, MINT, CENTEL…)  หุ้นกลุ่มสายการบิน (THAI, AAV, NOK…)  ในทางกลับกัน หากเหตุการณ์เริ่มสงบ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็จะกลับมาท่องเที่ยวในเมืองไทยอย่างรวดเร็ว พูดง่ายๆก็คือ “ไปเร็ว…มาเร็ว”  ซึ่งก็จะทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาเร็วด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นอาจเป็นหนึ่งในโอกาสของคุณผู้อ่านที่คิดอยากจะลงทุน

    สี่  หุ้นค้าปลีก  มุมมองในการลงทุน

    หากเหตุการณ์ความไม่สงบยังดำเนินต่อไป ผมเองมีมุมมองในการแสวงหาโอกาสในการลงทุนในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ซึ่งพอจะแบ่งออกเป็น 2 มุมมองดังนี้ครับ

    มุมมองที่ 1  หุ้นค้าปลีกที่ยังมีผลการดำเนินงานที่พอไปได้ในยามวิกฤต น่าจะเป็นหุ้นที่มีพลังในการผูกขาดในตลาดเป้าหมายของตนเองได้ดี ซึ่งผมอยากจะขอยกตัวอย่าง 2 ตัวอย่างคือ หุ้น CPALL หรือร้านเซเว่นอีเลฟเว่นน่าจะดำเนินการไปได้อย่างไม่มีปัญหามากนัก หากคุณผู้อ่านเคยเดินทางไปร่วมชุมนุมบ้าง คุณผู้อ่านก็จะพบว่าร้านเซเว่นในย่านชุมนุมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คนเข้าแถวซื้อของยาวเหยียด ส่วนหุ้นอีกตัวที่ผมคิดว่าน่าจะดีก็คือ MAKRO เพราะเป็นห้างที่ขายสินค้าส่งในราคาถูก ในยามที่เศรษฐกิจฝืดเคือง การซื้อสินค้าในราคาถูกจะเป็นสิ่งที่หลายๆคนต้องการที่จะทำ

    มุมมองที่ 2  ห้างร้านในหัวเมืองในต่างจังหวัด ปัญหาความไม่สงบทางการเมือง ประกอบกับนโยบายรับจำนำข้าวและประชานิยมเริ่มเดินไม่ต่อเนื่อง ผมคิดว่าส่งผลแน่ๆต่อกำลังการใช้จ่ายเงินของผู้คนในต่างจังหวัด ดังนั้นหุ้นค้าปลีกที่มีฐานอยู่ในต่างจังหวัด เช่น ROBINS, BIGC, CPN เป็นต้น ราคาหุ้นในช่วงนี้ก็ไม่น่าจะดีนัก แต่หากสถานการณ์กลับมาปกติได้ประมาณซักหนึ่งปีเหมือนในอดีต ตามที่ผมคุยให้ฟังแล้วในข้อที่หนึ่ง ราคาหุ้นกลุ่มนี้ก็มีโอกาสที่จะกลับมาในระดับราคาก่อนเกิดวิกฤต และบวกกับกระแส AEC ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในปลายปี 2558 แล้ว ดังนั้นหากคุณผู้อ่านคิดจะลงทุนในระยะยาว หุ้นกลุ่มนี้ควรจะเป็นหุ้นกลุ่มที่คุณผู้อ่านไม่ควรจะพลาดที่จะตั้งไว้บนจอเรดาร์ของคุณผู้อ่านไว้ด้วย

    ท้ายนี้ ผมยังเชื่อมั่นใน..ประเทศไทย เชื่อมั่นใน..เศรษฐกิจไทย และเชื่อมั่นใน..ตลาดหุ้นไทย คุณผู้อ่านคิดเหมือนผมไหมครับ?  ถ้าใช่..เวลานี้อาจเป็นเวลาที่คุณผู้อ่าน..ควรจะเริ่มมองหาโอกาสในตลาดหุ้นไทยบ้างแล้วมั้งครับ?   : )

    พิมพ์หน้านี้

    ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    1,236 views  Comments

    Posted Under โพสต์ทูเดย์

    No Comments Yet

    You can be the first to comment!

    Leave a comment

    * = Required

    CAPTCHA Image
    Refresh Image
    *

      • 10 อันดับ
      • Facebook
      • Twitter

      บทความที่โพสต์ขึ้นเฟสบุ๊ค เมื่อคืนนี้เอาขึ้นเว็บแล้วนะครับสนใจคลิกที่... http://t.co/ylMslUNy

      follow me on
      twitter

    •  
    • Subscribe Email


       

    • Polls Sorry, there are no polls available at the moment.
    • Tag Cloud
      CSR GDP IMF กรีซ การลงทุน ครัวโลก ความรู้นักลงทุน ความเป็นอิสระทางการเิงิน คอร์รัปชัน ค่าแรง ตาน ฉ่วย ทองคำ ธนินทร์ เจียรวนนท์ น้ำท่วม 2554 บัตรเครดิต ประชาธิปไตย พม่า พื้นที่ทับซ้อน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยุโรป วิกฤตซับไพรม์ วิธีบริหารกองทุน วีรพงษ์ ชุติภัทร์ สหรัฐอเมริกา หนองหว้า หนี้สาธารณะ หมู่บ้านเกษตรกรรม หมู่เกาะสแปรตลีย์ หุ้น หุ้นแอปเปิ้ล หุ้นโกดัก อาเซียน อิสรภาพทางการเงิน อเมริกา เจริญโภคภัณฑ์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผด็จการ เล่นหุ้น เศรษฐกิจไทย แมคอินทอช แอปเปิ้ล โกดัก โซเวียต ไอเอ็มเอฟ ไอแพด 2
    • สถิติบล็อก
      • 2485037เข้ามาอ่านทั้งหมด:

    This site is using the Handgloves WordPress Theme
    Designed & Developed by George Wiscombe

    Subscribe via RSS