28 พฤษภาคม 2557
2,523 views
โพสต์ทูเดย์: 21 วิธีคิด ที่ทำให้คนรวย…แตกต่าง ตอนที่ 2/7
คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย
21 วิธีคิด ที่ทำให้คนรวย…แตกต่าง ตอนที่ 2/7
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
เราได้คุยกันเกี่ยวกับเรื่อง “21 วิธีคิด ที่ทำให้คนรวย…แตกต่าง” ไปแล้ว 3 วิธี วิธีการเหล่านี้อาจช่วยให้คุณผู้อ่านสามารถเปลี่ยนวิธีคิดหรือสร้างวิธีคิดใหม่ๆขึ้นมาได้ ในบทนี้ผมจะขอคุยให้คุณผู้อ่านเข้าใจเพิ่มขึ้นอีก 3 วิธี ดังนี้ครับ
4) คนทั่วไปคิดว่า “การศึกษาเท่านั้น..ที่จะทำให้รวยได้” แต่คนรวยคิดว่า “ประสบการณ์ต่างหาก…ที่จะทำให้รวยได้”
คุณผู้อ่านรู้จักคนที่ชื่อว่า บิล เกตส์ (Bill Gates) ไหมครับ? คุณผู้อ่านหลายท่านคงร้องออกมาเบาๆว่า..อ๋อ ใช่แล้วครับ..บิล เกตส์ คือ หนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก เจ้าของอาณาจักรเครือบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกที่มีชื่อว่า..ไมโครซอฟท์ (Microsoft)
บิล เกตส์ เป็นคนที่เรียนหนังสือเก่งมาก ในปี 2516 เขาทำคะแนน SAT ซึ่งเป็นการสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาได้สูงถึง 1590 คะแนน จากคะแนนเต็ม 1600 คะแนน จึงทำให้เขาสามารถสมัครเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ซึ่งเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกได้
ก่อนที่เกตส์จะเข้าฮาร์วาร์ดนั้น เขามีประสบการณ์ทางคอมพิวเตอร์มาตั้งแต่อายุ 13 ปี เขาสามารถหารายได้จากความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุให้ตอนช่วงที่เกตส์เรียนอยู่ปีที่ 2 ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนั้น เขาได้ใช้ประสบการณ์ของเขาหาเงินได้จากความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ได้เป็นจำนวนมาก และต่อมาเขาก็ทำเงินได้อย่างมหาศาลจากธุรกิจนี้ ซึ่งในที่สุดก็ทำให้เขาเลิกเรียนหนังสือที่ฮาร์วาร์ดไป จนถึงทุกวันนี้..เกตส์ก็ยังไม่ได้สำเร็จปริญญาตรีเลย
5) คนทั่วไปมักจะคิดถึง..วันเก่าๆ ส่วนคนรวยคิดถึงแต่..อนาคต
สตีฟ จ็อบส์ เป็นชื่อที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี สำหรับคุณผู้อ่านบางท่านที่ไม่คุ้นเคย เราอาจต้องกล่าวถึง “ไอโฟน (iPhone)” โทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายทำลายสถิติโลกครั้งแล้วครั้งเล่า ไอโฟนและผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิ้ลอีกหลายตัว ได้แสดงถึงตำนานแห่งนวัตกรรมอันยิ่งใหญ่ของ
จ็อบส์ ซึ่งแทบจะไม่มีใครในโลกจะมีความยิ่งใหญ่ได้เทียบเทียมกับเขาได้เลย
จ็อบส์..เป็นเด็กกำพร้า เขาเติบโตมาได้ด้วยการเลี้ยงดูของครอบครัวบุญธรรมตระกูลจ็อบส์ จ็อบส์มักจะมีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียนตั้งแต่เด็กจนโต เขามักจะทิ้งการเรียนในวิชานั้นๆทันที..ถ้าเขาคิดว่ามันไม่ใช่ “ตัวเขา” โดยเขาไม่เคยสนใจกับอดีตเลย ความคิดของจ็อบส์จะมุ่งตรงไปยัง “อนาคต” เท่านั้น
ในปี 2519 จ็อบส์ได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล.. Apple I และ Apple II ซึ่งขายดีถล่มทลายไปทั่วโลก ในปี 2521 จ็อบส์ได้ดึง จอห์น สกัลลีย์ (John Sculley) ซึ่งเป็น CEO ของเป๊ปซี่มาเป็น CEO ของแอปเปิ้ล ด้วยประโยคอมตะที่ว่า “คุณจะใช้เวลาที่เหลือของชีวิตกับการขายน้ำอัดลม หรือคุณอยากได้โอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้”
ในปี 2540 จ็อบส์ได้กลับมาเป็นผู้บริหารในแอปเปิ้ลอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้หัวสมองของจ็อบส์มุ่งคิดถึงแต่นวัตกรรมในอนาคตเท่านั้น เริ่มต้นด้วยการนำ ไอพอด (iPod) ออกมาจำหน่ายและมียอดขายถล่มทลาย ตามมาด้วยเกิดเปิด ไอจูนสโตร์ (iTune Store) ที่เป็นแหล่งขายเพลงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามมาด้วยไอโฟน ไอแพด และอีกหลายๆผลิตภัณฑ์ และได้ทำให้บริษัทแอปเปิ้ลได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว แม้ว่าจ็อบส์…จะจากไป..อย่างไม่มีวันหวนกลับมาแล้วก็ตาม
6) คนทั่วไปจะจัดการกับปัญหาเรื่องเงินด้วย..อารมณ์ แต่คนรวยจะจัดการกับปัญหาเรื่องเงินด้วย..สมอง
ปัญหาเรื่องเงินน่าจะเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของคนจน สิ่งที่คนจนมักจะต้องเผชิญอย่างหลีกหนีไม่พ้นก็คือ บิลค่าใช้จ่ายสารพัดที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นปัญหาดังกล่าวจะยิ่งรุนแรงทวีคูณขึ้นไปอีกเมื่อ..มีการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น แล้วก่อให้เกิดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เกิดปัญหารุมเร้ากระหน่ำซ้ำเติมเข้าไปที่ใจคนยากจนแทบจะทุกลมหายใจ
สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ คนจนมักจะไม่คิดที่จะจัดการกับปัญหาโดยตรง คนจนมักจะเลือกที่จะจัดกับปัญหาด้วยอารมณ์ เช่น การบ่น การด่า การต่อว่า และการแสดงการโต้ตอบต่างๆในทางลบกับปัญหาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้นๆ
ในขณะที่คนรวยใช้ “สมอง” ในการจัดการกับปัญหาเรื่องเงินด้วยหลากหลายวิธี เช่น การลดค่าใช้จ่ายหรือการลดหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (Downsize) การจัดการเคลียร์หนี้ทีละก้อน การรวบรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียว การเจรจาต่อรองหนี้กับเจ้าหนี้ การวางแผนการผ่อนชำระ และอีกหลากหลายวิธีที่จะจัดการกับปัญหาเรื่องเงิน ขอเพียงแต่คุณผู้อ่านเริ่มต้นด้วย “สมอง” ทุกปัญหาเรื่องเงินก็สามารถจัดการได้
เราได้คุยกันไปแล้วถึงวิธีคิดที่ทำให้คนรวย…แตกต่าง ไปกันแล้ว 6 วิธี คุณผู้อ่านสังเกตบ้างไหมครับว่า.. คนรวยมักจะมีวิธีคิดที่เป็นลักษณะเฉพาะของตัวเอง ไม่เหมือนใคร…และไม่มีใครเหมือน คุณผู้อ่านล่ะครับ…เริ่มเปลี่ยนวิธีคิดบ้างแล้วหรือยัง?
เริ่มเปลี่ยนวิธีคิด…เสียแต่วันนี้ พรุ่งนี้…อาจจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิต ก็เป็นได้
ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
No Comments Yet
You can be the first to comment!
Leave a comment