12 กุมภาพันธ์ 2558
2,494 views
“ตลาดหุ้นลาว” โอกาสสำหรับ…คนลงทุนยาว
คอลัมน์: หุ้นส่วน ประเทศไทย
“ตลาดหุ้นลาว” โอกาสสำหรับ…คนลงทุนยาว
ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต
ช่วงปลายปี 2557 ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสนำคณะนักศึกษาโครงการ “กลยุทธ์การบริหารเงินลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนดีที่สุด” (CSi) วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ไปดูลู่ทางโอกาสการลงทุนใน “ตลาดหุ้นลาว”
รัฐบาลลาวได้เล็งเห็นความจำเป็นในการมี “ตลาดทุน” หรือ “ตลาดหุ้น” เพราะลำพังเงินทุนในประเทศเท่านั้นซึ่งมีน้อยมากคงจะไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของลาวในระยะยาวได้ รัฐบาลลาวจึงต้องการให้มีตลาดหุ้นเพื่อที่จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนได้ จึงได้มีการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์ลาวขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 2010 (10-10-10) ด้วยการลงทุนภายใต้สัญญาร่วมทุนระหว่าง ธนาคารแห่ง สปป. ลาว ถือหุ้น 51% และ ตลาดหลักทรัพย์เกาหลี ถือหุ้น 49%
ทั้งนี้ รศ.ดร.เดดพูวัง มูลรัตน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป. ลาว ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ประธานกรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ ตลาดหลักทรัพย์ลาว รศ.ดร.เดดพูวัง ได้ตั้งเงื่อนไข 2 ข้อ ก่อนเข้ารับตำแหน่งในครั้งนั้นว่า ข้อแรก ตลาดหลักทรัพย์ลาว “ต้องเป็นเอกราช” หมายถึง ต้องมีอิสระในการคิดริเริ่มและในการดำเนินงาน และข้อสอง “ต้องมีการจัดหา Facilities ให้” เพราะปรารถนาให้ตลาดหลักทรัพย์ลาวเป็นอิสระจากทุกภาคส่วนเพื่อให้บริหารงานได้สะดวกขึ้น ซึ่งทางรัฐบาลลาวเห็นชอบ รศ.ดร.เดดพูวังจึงเดินเครื่องเต็มที่ กระทั่งตลาดหลักทรัพย์ลาวได้เปิดให้มีการซื้อขายหุ้นได้จริงตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2554 (11-01-11)
ส่วนการซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นลาวนั้นมีความแตกต่างจากตลาดหุ้นไทยพอสมควร เนื่องจากปริมาณการซื้อขายหุ้นยังมีไม่มากนัก ดังนั้นจึงไม่สามารถเปิดให้เทรดออนไลน์เพื่อให้ระบบทำการจับคู่ให้โดยอัตโนมัติ (Online Automatic Matching) ได้ตลอดเวลาเหมือนอย่างบ้านเรา แต่ตลาดหุ้นลาวจะเปิดให้ซื้อขายเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ ยกเว้นวันปิดตลาด และวันหยุดราชการ ตามเวลาซื้อขายตั้งแต่ 8.30 น. ถึง 11.30 น. โดยระบบจะเปิดให้ทำการซื้อขายผ่านหลักทรัพย์ 6 ครั้งต่อวัน นั่นหมายถึง คำสั่งซื้อขายจะต้องมารอเป็นรอบๆ และจะจับคู่การซื้อขายหุ้นกันในเวลา 9.00, 9.30, 10.00, 10.30, 11.00 และ 11.30 น. รวม 6 รอบ
ในปัจจุบันมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว อยู่ 4 บริษัท คือ บริษัทผลิต-ไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-GEN), ธนาคารการค้าต่างประเทศลาว มหาชน (BCEL), บริษัท ลาวเวิลด์ มหาชน (LWPC Lao World Public Company) และล่าสุดคือบริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน หรือ (PTL) โดยบริษัทจดทะเบียนทั้ง 4 แห่ง มีการดำเนินธุรกิจ ดังนี้ครับ
บริษัท ผลิตไฟฟ้าลาว มหาชน (EDL-GEN) …หนึ่งในฉายาของประเทศ สปป.ลาวก็คือ “Battery of Asean” เพราะสินค้าที่ลาวได้ส่งไปขายต่างประเทศได้ดีที่สุดนั้นก็คือ พลังงาน บริษัทแห่งนี้ได้ผลิตและขายไฟฟ้าให้ไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รายได้และผลกำไรที่ออกมาก็เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าในอนาคต หุ้นของบริษัทแห่งนี้จึงเป็นที่หมายปองของนักลงทุนเป็นจำนวนมาก
ธนาคารการค้าต่างประเทศ (BCEL) ธนาคารแห่งนี้ได้ดำเนินธุรกรรมอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2532 จึงนับได้ว่ามีความมั่นคงอย่างสูง ปัจจุบันนี้มีสาขา 18 แห่ง สาขาย่อย 52 แห่ง ธนาคารแห่งนี้ยังร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ เคทีซีมิโก้ ของไทย เปิดบริษัทหลักทรัพย์ชื่อ BECL-KT เพื่อดำเนินการเป็นโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นลาวอีกด้วย
กลุ่มบริษัท ลาวเวิลด์ (LWPC) ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์แสดงสินค้า ลาว-ไอเทค ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยนักธุรกิจชาวไทยที่มีชื่อว่า คุณศักดิ์ชัย วงศ์มาลาสิทธิ์ ด้วยเงินลงทุน 400 ล้านบาท พื้นที่กว่า 80 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงเวียงจันทน์
บริษัท ปิโตรเลียมเทรดดิ้ง ลาว มหาชน (PTL) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสถานีบริการน้ำมันครบวงจร และจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้าโดยตรง ภายใต้เครื่องหมายการค้า “PLUS” โดยมีสถานีบริการน้ำมันทั่วสปป.ลาว จำนวน 107 แห่ง และ มีคลังน้ำมันที่สามารถจัดเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 3,610,000 ลิตร กระจายอยู่ทั่วสปป.ลาว
ในมุมมองของผม ผมคิดว่าตลาดหุ้นลาวไม่เหมาะกับการเก็งกำไรเอาเสียเลย เนื่องจากการซื้อขายจะต้องเป็นเงินกีบเท่านั้น ทำให้นักลงทุนต้องประสบกับปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน นอกจากนั้นปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่มีน้อยมากก็ยังจะส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นลงหวือหวาอย่างที่ไม่ควรจะเป็นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้…ตลาดหุ้นลาว…จึงไม่น่าลงทุนน่ะสิ !!!
ช้าก่อน… สิ่งที่ยังเป็นเสน่ห์ของตลาดหุ้นลาวก็คือ อัตราการจ่ายปันผลซึ่งสูงอยู่ในระดับ 7-10% ทีเดียว นอกจากนั้นหากเป็นหุ้นพลังงานอย่าง EDL-GEN ด้วยแล้ว นักลงทุนจำนวนมากยังคงให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะราคาพลังงานนับวันมีแต่จะราคาสูงขึ้น และค่าเงินกีบก็น่าจะมีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพและแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ตามอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจลาวที่อยู่สูงถึง 8% ทีเดียว
คำถาม?….จึงไปอยู่ที่ หากคุณผู้อ่านลงทุนแล้ว จะเก็บไว้นานๆๆ ได้หรือไม่? ..เท่านั้นเอง
ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์
No Comments Yet
You can be the first to comment!
Leave a comment