doctorwe.com

Dr.Weraphong Chutipat   A Columnist

Fanpage 828_315
  • ล่าสุด
  • บทความ
  • แจกฟรี
  • การอบรม
  • ชม+ฟัง
  • ผู้เขียน


  • A A A
    • พ.ศ. :
    • 2563
    • 2562
    • 2561
    • 2560
    • 2559
    • 2558
    • 2557
    • 2556
    • 2555
    • 2554
      เดือน :
    • ม.ค.
    • ก.พ.
    • มี.ค.
    • เม.ย.
    • พ.ค.
    • มิ.ย.
    • ก.ค.
    • ส.ค.
    • ก.ย.
    • ต.ค.
    • พ.ย.
    • ธ.ค.

    8 กุมภาพันธ์ 2559

    909 views

    “Sell Everything” = ขายมันทุกอย่าง…จริงหรือ? ตอนที่ 1

    พิมพ์หน้านี้

     

     

     

     

     

     

     

    คอลัมน์:  หุ้นส่วน ประเทศไทย

    “Sell Everything” = ขายมันทุกอย่าง…จริงหรือ?  ตอนที่ 1

    ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล รัตนโกสินทร์

    www.doctorwe.com

    ผมได้อ่านบทวิเคราะห์ของคุณแอนดรู โรเบิร์ตส (Andrew Roberts) ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อของธนาคาร Royal Bank of Scotland (RBS)  ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารชั้นนำของอังกฤษ ในบทวิเคราะห์ของเขา เขาได้แนะนำลูกค้าของเขาว่า “Sell everything except for high-quality bonds”  ซึ่งแปลตามความว่า “ขายมันทุกอย่าง ยกเว้นตราสารหนี้คุณภาพสูง”  โดยเขาได้เปรียบเทียบเหตุการณ์ในเวลานี้ว่า เหมือนกับวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ในปี 2551  เพียงแต่วิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ไม่ได้เกิดที่บริษัทเลแมนน์ บราเดอร์  แต่มันจะไปเกิดที่…ประเทศจีน

    โรเบิร์ตสได้ยกเหตุการณ์ที่ถือได้ว่าเป็นธงแดง (Red Flags) ทางเศรษฐกิจที่เขาเฝ้ามองอยู่ นับตั้งแต่การตกต่ำของราคาน้ำมัน ความผันผวนของตลาดการเงิน มูลค่าหนี้ที่เพิ่มขึ้น สภาวะเงินฝืด และการให้กู้ยืมในภาคธุรกิจที่อ่อนแอที่ล้วนเกิดขึ้นในจีนแล้วทั้งนั้น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ได้ส่งผลไปยังเศรษฐกิจทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เห็นมุมมองหลายๆด้าน ผมจึงอยากเสนอมุมมองจากนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์อีกหลายท่าน เพื่อให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกในเวลานี้ ดังนี้ครับ

    หนึ่ง  เศรษฐกิจจีน…มีปัญหา จริงหรือไม่?

    ก่อนที่จะตอบคำถามข้อนี้ ผมอยากจะพาคุณผู้อ่านย้อนกลับไปที่ปี 2551  ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกา  ตามด้วยวิกฤตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโรโซน และในประเทศญี่ปุ่น ทุกประเทศที่กล่าวถึงนี้ได้ใช้วิธีแก้ปัญหาโดยการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าไปในระบบอย่างมโหฬาร (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม “เฟดขึ้นดอกเบี้ย ทำไม? เมื่อไร? ผลต่อไทย?” โพสต์ทูเดย์ วันที่ 6 ตุลาคม 2558 หรือที่ http://www.doctorwe.com/posttoday/20151006/6308 )  รวมแล้วเป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านล้านดอลลาร์

    จำนวนเงินมหึมาก้อนนี้…ยังไม่ได้ไหลออกไปจากระบบเลย ส่วนหนึ่งของเงินเหล่านี้ได้ไหลไปเก็งกำไรในตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก และนำมาซึ่งฟองสบู่ทางเศรษฐกิจในจีนด้วย ปลายปีที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็ทำให้เงินจำนวนนี้บางส่วนไหลกลับไปที่สหรัฐอเมริกาเพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่า  ผสมกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีมาก่อนหน้านี้แล้วหลายปี ก็ยิ่งซ้ำเติมให้จีนต้องประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และเงินทุนไหลออกจำนวนมหาศาล

    นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เจพี สมิธ (JP Smith) ซึ่งทำงานอยู่ที่ Deutsche Bank  สมิธเป็นนักวิเคราะห์ที่เก่งกาจมาก เขาเคยทำนายเรื่องวิกฤตตลาดหุ้นรัสเซียในปี 2541 ได้อย่างถูกต้อง สมิธได้คาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนในปีนี้ว่า “มันเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่า เงินทุนจะไหลออกประเทศจีนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2559”  สมิธมองว่า จีนคงจะต้องใช้เงินสำรองระหว่างประเทศประมาณ 1 – 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อนำไปปกป้องค่าเงินหยวน และปกป้องไม่ให้เม็ดเงินเกิดการไหลออกอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนคงอยากให้ค่าเงินหยวนตกลงมามากๆ…เพื่อที่จะช่วยเหลือภาคการส่งออก

    ขณะที่ธนาคารอเมริกา (Bank of America)  ออกรายงานระบุว่า “เศรษฐกิจจีนจะค่อยๆชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป” และยังทำนายว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) จะอยู่ประมาณ 6.6%  ต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์กันว่าปีนี้เศรษฐกิจจีนจะโต 6.9%

    ปัจจุบันนี้ จีนได้ใช้เงินสำรองระหว่างประเทศของตนไปเป็นจำนวนมาก เพื่อปกป้องการลดลงอย่างรวดเร็วของค่าเงินหยวน โดยพบว่าเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว จีนมีเงินสำรองฯอยู่ที่ 3.99 ล้านล้านดอลลาร์ แต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้วกลับลดลงมาเหลือ 3.43 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นเงินสำรองฯที่ต่ำที่สุดในระยะเวลาเกือบสามปี  ดังนั้น จีน…ยังคงจะต้องเผชิญกับวิบากกรรมทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปีนี้อย่างแน่นอน

    สอง  ประเทศในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) 

    ประเทศในตลาดเกิดใหม่ก็คือ ประเทศที่มีปัจจัยทางเศรษฐกิจบางอย่างที่พัฒนาแล้ว แต่ยังไม่ได้มีมาตรฐานเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างแท้จริง ซึ่งเวลาเราคุยถึงบรรดาประเทศในกลุ่มนี้ เราจะนึกถึง กลุ่ม BRIC (Brazil, Russia, India, China)  และบางท่านก็อาจจะนึกถึงประเทศที่เป็นตลาดใหญ่อีก 5 ประเทศคือ เกาหลีใต้ เม็กซิโก อินโดนีเซีย ตุรกี และซาอุดิอาราเบีย ทั้งนี้ยังรวมถึงประเทศไทย ประเทศในเอเชีย และลาตินอเมริกาเกือบทั้งหมด

    ในปีที่ผ่านมาและในปีนี้ ดูเหมือนว่าดัชนี MSCI Emerging Markets Index ที่เป็นดัชนีสะท้อนภาพตลาดหุ้นของตลาดเกิดใหม่ได้สะท้อนภาพการตกลงมาของดัชนีที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยตกลงมาถึง 7.9%  ซึ่งมีตกลงมาต่ำกว่าปี 2541 ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 เสียอีก ดังภาพที่แสดงด้านล่างนี้

    ดอน ทาวน์สวิค (Don Townswick)  ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ตราสารทุน ของบริษัท Conning Inc. กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า “เรากำลังอยู่ในทิศทางตลาดปรับตัวขาลงอย่างแท้จริง”

    พบกับบทความ “Sell Everything” = ขายมันทุกอย่าง…จริงหรือ?  ตอนจบ ได้ต่อในวันพรุ่งนี้นะครับ แล้วพบกันครับ

     

     

    พิมพ์หน้านี้

    ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    909 views  Comments

    Posted Under โพสต์ทูเดย์

    No Comments Yet

    You can be the first to comment!

    Leave a comment

    * = Required

    CAPTCHA Image
    Refresh Image
    *

      • 10 อันดับ
      • Facebook
      • Twitter

      บทความที่โพสต์ขึ้นเฟสบุ๊ค เมื่อคืนนี้เอาขึ้นเว็บแล้วนะครับสนใจคลิกที่... http://t.co/ylMslUNy

      follow me on
      twitter

    •  
    • Subscribe Email


       

    • Polls Sorry, there are no polls available at the moment.
    • Tag Cloud
      CSR GDP IMF กรีซ การลงทุน ครัวโลก ความรู้นักลงทุน ความเป็นอิสระทางการเิงิน คอร์รัปชัน ค่าแรง ตาน ฉ่วย ทองคำ ธนินทร์ เจียรวนนท์ น้ำท่วม 2554 บัตรเครดิต ประชาธิปไตย พม่า พื้นที่ทับซ้อน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยุโรป วิกฤตซับไพรม์ วิธีบริหารกองทุน วีรพงษ์ ชุติภัทร์ สหรัฐอเมริกา หนองหว้า หนี้สาธารณะ หมู่บ้านเกษตรกรรม หมู่เกาะสแปรตลีย์ หุ้น หุ้นแอปเปิ้ล หุ้นโกดัก อาเซียน อิสรภาพทางการเงิน อเมริกา เจริญโภคภัณฑ์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผด็จการ เล่นหุ้น เศรษฐกิจไทย แมคอินทอช แอปเปิ้ล โกดัก โซเวียต ไอเอ็มเอฟ ไอแพด 2
    • สถิติบล็อก
      • 2485037เข้ามาอ่านทั้งหมด:

    This site is using the Handgloves WordPress Theme
    Designed & Developed by George Wiscombe

    Subscribe via RSS