doctorwe.com

Dr.Weraphong Chutipat   A Columnist

Fanpage 828_315
  • ล่าสุด
  • บทความ
  • แจกฟรี
  • การอบรม
  • ชม+ฟัง
  • ผู้เขียน


  • A A A
    • พ.ศ. :
    • 2563
    • 2562
    • 2561
    • 2560
    • 2559
    • 2558
    • 2557
    • 2556
    • 2555
    • 2554
      เดือน :
    • ม.ค.
    • ก.พ.
    • มี.ค.
    • เม.ย.
    • พ.ค.
    • มิ.ย.
    • ก.ค.
    • ส.ค.
    • ก.ย.
    • ต.ค.
    • พ.ย.
    • ธ.ค.

    18 มกราคม 2560

    1,702 views

    “บิทคอยน์” อีกหนึ่งการลงทุนที่…คุณต้องรู้ ตอนจบ

    พิมพ์หน้านี้

     

    คอลัมน์: หุ้นส่วนประเทศไทย

    หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ 

    “บิทคอยน์”  อีกหนึ่งการลงทุนที่…คุณต้องรู้  ตอนจบ

    ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต

    www.CsiSociety.com

    Add Line:  @CsiSociety

    เมื่อวานนี้ เราได้คุยกันแล้วเกี่ยวกับบทความเรื่อง “บิทคอยน์” อีกหนึ่งการลงทุน ที่คุณ…ต้องรู้ ตอนที่ 1  จากงานสัมมนาภาพยนตร์เรื่อง “The Rise and rise of Bitcoin”  โดยชมรมนักลงทุนซีเอสไอ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2559  โดยมีข้อสรุปประเด็นสำคัญๆของการสัมมนา คือ หนึ่ง  “บิทคอยน์” คืออะไร?  สอง  “บิทคอยน์” มีโอกาสที่จะตายจากไปไหม?  และสาม  “ราคาบิทคอยน์” ในอนาคตจะเป็นอย่างไร?  วันนี้จะคุยกันต่ออีก 3 ประเด็นที่เหลือดังนี้ครับ

    สี่  ความน่าเชื่อถือของ “บิทคอยน์”

    ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557  เกิดเหตุการณ์ที่บริษัท เมาท์ก๊อกซ์ (Mt.Gox) บริษัทในกรุงโตเกียวที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์ที่รับแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประกาศปิดเว็บไซต์และหยุดให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ โดยมีปัญหามาจากเว็บไซต์ของ Mt.Gox  ถูกคนใช้คอมพิวเตอร์แฮ็คเข้าไปได้ และพบว่ามีบิทคอยน์ถูกขโมยไปสูงถึง 850,000 บิทคอยน์ คิดเป็นเงินสูงกว่า 1.5 หมื่นล้านบาททีเดียว เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่สั่นคลอนความน่าเชื่อถือของบิทคอยน์ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และหลายต่อหลายคนก็ต่างพากันคิดว่า   งานนี้…เงินสกุลดิจิตอล “บิทคอยน์” ต้องตายแน่ๆ เพราะมันมีจุดอ่อนที่ทำให้บรรดาหัวขโมยสามารถใช้คอมพิวเตอร์แฮ็คเข้าไปและสามารถขโมยบิทคอยน์ไปได้

    อันที่จริง “บิทคอยน์” เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน และยังไม่เคยถูกแฮ็คหรือฉ้อโกงไปจากระบบได้เลยนับตั้งแต่วันแรกที่มันปรากฏขึ้นมาบนโลกใบนี้ ทุกวันนี้คาดกันว่ามูลค่าการตลาดของบิทคอยน์ทั้งหมดน่าจะสูงกว่า 5 แสนล้านบาท ก็ยังไม่เคยเลยที่บิทคอยน์จะถูกแฮ็คและขโมยไปได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดที่บริษัท Mt.Gox นั้นพบว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทได้ถูกคนใช้คอมพิวเตอร์แฮ็คเข้าไปในระบบของบริษัทเอง และขโมยเงินบิทคอยน์ไปได้ และยังพบเพิ่มเติมอีกว่า เกิดการฉ้อโกงภายในบริษัทเองอีกด้วย ดังนั้นความน่าเชื่อถือของบิทคอยน์จึงยังมั่นคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

    เมื่อวันที่ 19 กันยายน ปีที่ผ่านมา ศาลในเขตเซาธ์เทิร์นในมหานครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ได้ตัดสินให้บิทคอยน์เป็นเงินที่สามารถใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการหรือทั้งสองอย่างได้จากการโอนเงินผ่านบัญชี ดังนั้นบิทคอยน์จึงได้ทำหน้าที่เป็นทรัพยากรทางการเงิน และสามารถใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนได้ และเป็นหนึ่งในวิธีการชำระเงิน

    ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของ “บิทคอยน์” ในฐานะสกุลเงินดิจิตอลที่สามารถแลกเปลี่ยน ซื้อสินค้าและบริการได้ จึงยังคงยืนหยัดอยู่ได้

    ห้า  “บิทคอยน์” ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง?

    ในปี 2556  มีห้างร้านหลายแห่งเริ่มรับเงินบิทคอยน์ในการชำระค่าสินค้า เริ่มจาก WordPress บริษัทที่ผลิตโปรแกรมที่ใช้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากนั้นมาก็เป็นบริษัทขายตั๋วเครื่องบินโรงแรม Expedia ในเดือนมิถุนายน 2557 และ Microsoft ในเดือนธันวาคม 2557  ตามมาด้วย Dell บริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังก็เริ่มรับชำระเงินเป็นบิทคอยน์ และยังให้ส่วนลดสูงถึง 10% ในสินค้าบางประเภทอีกด้วย

    หลังจากนั้น ในสหรัฐอเมริกาก็มีการออก Bitcoin Gift cards โดยมีการบรรจุเงินบิทคอยน์ลงในการ์ดเหมือนบัตรเดบิต และนำไปชำระสินค้า ซึ่งพบว่ามีร้านค้าจำนวนมากมายที่รับชำระด้วยบัตรประเภทนี้ อาทิเช่น Walmart, Amazon, Target และ Nike เป็นต้น

    เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันก็เกิดขึ้นประเทศอังกฤษ โดยบัตรกิฟท์การ์ดของบริษัท Gift Off ที่ใช้บิทคอยน์บรรจุลงไปในบัตรกิฟท์การ์ดเช่นเดียวกัน ก็นำไปชำระสินค้าได้ที่ Mark & Spencer, American Apparel, Ryan Air และ Amazon เป็นต้น

    ในประเทศไทย ทุกวันนี้เราสามารถนำเงินบิทคอยน์ไปเติมเงินในบัตรเงินสดได้ เติมเงินโทรศัพท์มือถือ บัตรทางด่วน จ่ายค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าโทรศัพท์ และซื้อกิฟท์การ์ดได้มากมาย เช่น iTunes, Google Play Store, Major Cineplex และอีกมากมาย

    หก “บิทคอยน์”  อีกหนึ่งการลงทุนที่…คุณต้องรู้

    “บิทคอยน์ กับ แชร์แม่ชม้อย” เคยถูกนักวิชาการพากันกล่าวหาว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ก่อให้เกิดการทุจริตคล้ายๆ “แชร์แม่ชม้อย” (Ponzi Scheme)  ศาสตราจารย์ทางกฎหมาย Eric Posner แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก ก็เคยกล่าวหาบิทคอยน์ว่าเป็นแชร์แม่ชม้อยประเภทหนึ่ง แต่ทุกวันนี้เสียงกล่าวหาต่างๆก็ดูเหมือนจะเงียบหายไป

    “บิทคอยน์…ตายแน่”  นิตยสารฟอร์บเคยบอกไว้ในเดือนมิถุนายน 2554 ว่า “คราวนี้ บิทคอยน์ต้องตายแน่”  ตามมาด้วยนิตยสาร Gizmodo ของออสเตรเลียในเดือนสิงหาคม 2554  และนิตยสาร Wired ในเดือนธันวาคม 2555 ก็กล่าวว่า “บิทคอยน์…หมดอายุแล้ว”  นอกจากนั้นยังมีอีกหลายสื่อมวลชนที่กล่าวหาบิทคอยน์ว่าไปไม่รอดแน่ ไม่ว่าจะเป็น Financial Times, USA Today และ The Telegraph เป็นต้น ปัจจุบันนี้ทุกคำกล่าวหาต่างๆก็เงียบหายไปเช่นกัน

    ขณะที่เหตุการณ์ร้ายๆเริ่มผ่านไป ราคาของบิทคอยน์ก็เริ่มฉายแสงแสดงอิทธิฤทธิ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ราคาของบิทคอยน์จากระดับต่ำกว่า 400 ดอลลาร์ต่อหนึ่งบิทคอยน์เมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา วิ่งทะลุผ่าน 900 ดอลลาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    คุณผู้อ่านพอจำได้ไหมครับว่า อัตราแลกเปลี่ยนเริ่มแรกของบิทคอยน์เป็นเท่าไร? ที่ผมได้กล่าวถึงเมื่อวานนี้ ใช่แล้วครับ… 1,309 บิทคอยน์ต่อหนึ่งดอลลาร์ ทุกวันนี้อัตราแลกเปลี่ยนของบิทคอยน์คือ 1 บิทคอยน์แลกได้ประมาณ 900 ดอลลาร์ ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนของบิทคอยน์ทุกวันนี้จึงได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1,309×900 = 1,178,100 เท่า นับจากวันแรกๆที่มันเริ่มมีการแลกเปลี่ยนกับเงินสกุลอื่น ซึ่งคงไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่า บิทคอยน์…เงินสกุลดิจิตอลที่ไร้สัญชาตินี้จะสามารถต่อสู้กับเงินสกุลอื่นๆบนโลกใบนี้ เพื่อยืนหยัดต่อไปได้อีกนานเท่าใด?

    ทำให้นึกถึงคำพูดของ Paul Singer ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชาวอเมริกันที่เคยพูดเกี่ยวกับบิทคอยน์ไว้ว่า “There is no more reason to believe that Bitcoin will stand the test of time than that governments will protect the value of government-created money, although Bitcoin is newer, and we always look at babies with hope.”  แปลตามความได้ว่า “ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะเชื่อได้ว่า บิทคอยน์จะสามารถยืนหยัดผ่านการทดสอบของเวลาได้นานกว่า เงินสกุลของแต่ละประเทศที่มีรัฐบาลของประเทศนั้นๆคอยปกป้องอยู่ ถึงแม้ว่าบิทคอยน์จะเป็นสิ่งใหม่ แต่เราก็จะเฝ้าคอยมองดูเด็กคนนี้ด้วยความหวัง”

     

     

    พิมพ์หน้านี้

    ข้อความนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์

    1,702 views  Comments

    Posted Under โพสต์ทูเดย์

    No Comments Yet

    You can be the first to comment!

    Leave a comment

    * = Required

    CAPTCHA Image
    Refresh Image
    *

      • 10 อันดับ
      • Facebook
      • Twitter

      บทความที่โพสต์ขึ้นเฟสบุ๊ค เมื่อคืนนี้เอาขึ้นเว็บแล้วนะครับสนใจคลิกที่... http://t.co/ylMslUNy

      follow me on
      twitter

    •  
    • Subscribe Email


       

    • Polls Sorry, there are no polls available at the moment.
    • Tag Cloud
      CSR GDP IMF กรีซ การลงทุน ครัวโลก ความรู้นักลงทุน ความเป็นอิสระทางการเิงิน คอร์รัปชัน ค่าแรง ตาน ฉ่วย ทองคำ ธนินทร์ เจียรวนนท์ น้ำท่วม 2554 บัตรเครดิต ประชาธิปไตย พม่า พื้นที่ทับซ้อน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยุโรป วิกฤตซับไพรม์ วิธีบริหารกองทุน วีรพงษ์ ชุติภัทร์ สหรัฐอเมริกา หนองหว้า หนี้สาธารณะ หมู่บ้านเกษตรกรรม หมู่เกาะสแปรตลีย์ หุ้น หุ้นแอปเปิ้ล หุ้นโกดัก อาเซียน อิสรภาพทางการเงิน อเมริกา เจริญโภคภัณฑ์ เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เผด็จการ เล่นหุ้น เศรษฐกิจไทย แมคอินทอช แอปเปิ้ล โกดัก โซเวียต ไอเอ็มเอฟ ไอแพด 2
    • สถิติบล็อก
      • 2485037เข้ามาอ่านทั้งหมด:

    This site is using the Handgloves WordPress Theme
    Designed & Developed by George Wiscombe

    Subscribe via RSS